นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียม สำหรับการจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางราคาซื้อขายไม่เกิน 1 ล้านบาท วงเงินจำนองไม่เกิน 1 ล้านบาทนั้น ถือว่าส่งผลดีต่อผู้ที่ยื่นกู้ซื้อบ้านในโครงการบ้านล้านหลังของธอส.เป็นอย่างมาก อีกทั้งจะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองถึง 20,000 บาท “มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองบ้านเหลือ 0.01% นั้น เป็นมาตรการที่ดีมาก เพราะผู้มีรายได้น้อยที่กู้ซื้อบ้านสามารถนำเงินที่แต่เดิมต้องจ่ายในการโอนและจดจำนองบ้านในอัตราถึง 1-2% สามารถนำเงินส่วนนี้ไปผ่อนเป็นค่าเช่าบ้านรายเดือน ซึ่งจะต้องผ่อนประมาณ 3,800 บาทต่อเดือน ได้ถึง 5 เดือนอย่างสบายๆ”
สำหรับโครงการบ้านล้านหลังที่เปิดให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยมายื่นกู้ ล่าสุดธอส.อนุมัติเงินกู้แล้ว 5,000 ราย วงเงินกู้ 3,500 ล้านบาท ส่วนผู้ขอยื่นกู้ที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความพร้อมจะกู้ซื้อบ้านหรือไม่ โดย ธอส.จะรีบ ตรวจสอบและเร่งอนุมัติเงินกู้ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.นี้ และจะเปิดลงทะเบียนระยะที่ 2 ในเดือน ก.ย.นี้
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการนี้ ถือเป็นเรื่อง
ที่ดีที่ภาครัฐสนับสนุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสมีบ้าน แต่คงไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในภาพรวมได้ไม่มาก โดยในส่วนของการกำหนดหลักเกณฑ์มูลค่าที่อยู่อาศัยที่จะได้สิทธิ์ต้องไม่เกิน 1 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวมองว่าถ้าจะให้เห็นผลช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ ควรตั้งเกณฑ์ราคาอยู่ในช่วง 2-2.5 ล้านบาท ซึ่งหากมองจริงๆ แล้ว ที่อยู่อาศัยที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ มีน้อยมาก รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบในปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีใครพัฒนาโครงการออกมา เนื่องด้วยจากแบกรับต้นทุนไม่ไหวทั้งค่าที่ดินและค่าก่อสร้าง
ด้านนายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาตรการนี้ เป็นถือเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคที่กำลังมองหาซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายของมาตรการนี้เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า แน่นอนการเลือกหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเองคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่เรื่องที่ยากคือการขออนุมัติสินเชื่อบ้านจากทางธนาคาร เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้จะไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ที่ชัดเจน ทำให้ยากต่อในการขอสินเชื่อ ซึ่งจุดนี้ก็อยากให้ภาครัฐหันมาให้ความสำคัญเรื่องนี้ด้วย.