ทนไม่ไหวเศรษฐกิจช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเงียบสงัด “สมคิด” จัดอีกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 หมื่นล้าน อัดฉีดช่วงยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ แปลกใจเลือกตั้งครั้งนี้เงินไม่สะพัด ด้านส่งออก มี.ค.62 กลับมาติดลบ รับพิษเศรษฐกิจโลก ทำเอาพาณิชย์เตรียมปรับเป้าส่งออกใหม่
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ต้นเดือน พ.ค.นี้ คาดว่ากระทรวงการคลังจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณา เพื่อประคับประคองภาวะเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงระหว่างที่ยังไม่ได้มีการจัดตั้งรัฐบาล
ดังนั้น ในระหว่างนี้จึงขอให้ดำเนินนโยบายสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ตอัพ) อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายใน 3 เดือน การเมืองจะเห็นภาพชัดเจน “ผมค่อนข้างเป็นห่วงในช่วงที่ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาล เพราะทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้ง เม็ดเงินจะสะพัดมากแต่ครั้งนี้แปลก เงินไม่สะพัด และ 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าเศรษฐกิจของไทยค่อนข้างนิ่งทำให้จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 4% จะเหลือเพียง 3%”
นายสมคิดกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังหารือถึงมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วง 2-3 เดือนนี้ ภายในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อประคองเศรษฐกิจ หลังไตรมาสแรกขยายตัว 3% โดยคาดว่า สศค.จะใช้เวลาในการศึกษาเรื่องดังกล่าวไม่นาน เนื่องจากได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว 7-8 มาตรการ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับ สศค.ในเบื้องต้นแล้วประมาณ 4-5 โครงการ โดยคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมดจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในวันที่ 30 เม.ย.62 “สำหรับโครงการ ยิ่งเที่ยว ยิ่งเท่ ช่วยเปย์ เมืองรอง โดยแจกเงินให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ในการกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดนั้น ยังไม่สรุปตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งตัวเลขสุดท้ายอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 1,500 บาทก็ได้”
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สศค.เปิดเผยว่า สิ่งที่ห่วงคือจะตรวจสอบอย่างไร หากผู้ที่เข้าร่วมโครงการรับเงินไปแล้ว นำเงินไปเที่ยวจังหวัดอื่นๆ กลายเป็นกระตุ้นไม่ถูกจุด จึงต้องกลับไปคิดหาวิธีก่อน
ด้าน น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในเดือน มี.ค.62 การส่งออกมีมูลค่า 21,440.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 4.88% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.61 ถือว่ากลับมาติดลบอีกครั้ง หลังจากที่เดือน ก.พ.62 เพิ่งขยายตัวเป็นบวก 5.91% แต่ถือว่ามูลค่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี สามารถประคับประคองให้อยู่ในระดับ 21,000 ล้านเหรียญฯได้ “การส่งออกเดือน มี.ค.ที่กลับมาติดลบ ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทำให้กระทบกำลังซื้อทั่วโลก โดยกระทรวงพาณิชย์กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนเป้าหมายมูลค่าการส่งออกใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ โดย สนค.มองว่า เป้าหมายเดิมที่ขยายตัว 8% จากปีก่อนคงเป็นไปได้ยาก เพราะหากจะให้ได้เป้า 8% ในช่วง 9 เดือนที่เหลือของปีนี้ จะต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 23,000 ล้านเหรียญฯ แต่ถ้าส่งออกได้เฉลี่ย 21,000-22,000 ล้านเหรียญฯ มูลค่าการส่งออกทั้งปีจะอยู่ที่ 3-6%”.