เพิ่มโทษผลิตสินค้าห่วย ขยับปรับเป็น 2 ล้านบาท

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนรอประกาศใช้อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ 

โดยสาระสำคัญ ของการแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าว มีอาทิ ได้แก้ไขบทลงโทษ เช่น เพิ่มโทษปรับผู้ทำและนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากเดิมจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แก้ไขเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษผู้จำหน่ายที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตาม มอก. โดยไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานจากเดิมจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแก้ไข เป็นจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากต้องการให้ผู้ประกอบการเข้มงวดผลิตสินค้าได้คุณภาพ

“พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขใหม่ ได้เพิ่มโทษปรับสูงขึ้น เพราะคณะทำงานที่แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมองว่า เพื่อให้สอดคล้องกันระหว่างโทษจำคุก 2 ปี กับปรับ 2 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อให้ผู้ประกอบการเกรงกลัวกฎหมายมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ผู้ประกอบการบางรายแอบลักลอบนำเข้า หรือผลิตสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ แล้วยอมถูกปรับ เพราะเห็นว่าคุ้มซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะสินค้าที่เป็น มอก.ภาคบังคับรวม 112 รายการ เป็นสินค้าที่ต้องได้ มอก. เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ปลั๊กพ่วงไฟฟ้า ของเล่นเด็ก หมวกกันน็อก ที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจรจำนวนมาก สาเหตุหลักจากการใช้สินค้าไม่ได้คุณภาพ”

นอกจากนี้ ยังได้มีการแก้ไขในส่วนสาระ สำคัญอื่นๆ เช่น ให้ผู้ทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ต้องเป็นไปตาม มอก.ภาคบังคับ จะต้องแสดงหลักฐานให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการ สมอ. ก่อนทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมดังกล่าว เว้นแต่เป็นการทำเพื่อการวิจัยและพัฒนา การทำเพื่อทดลองกระบวนการผลิต หรือทำเป็นตัวอย่างเพื่อควบคุม และตรวจสอบการทำและนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, ตลอดจนกรณีที่ผู้นำเข้าต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ต้องเป็นไปตาม มอก.ภาคบังคับเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อ ผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนั้นๆ เพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทั้งหมด ผู้นำเข้าต้องแจ้งต่อ สมอ. ก่อนเริ่มการนำเข้าผลิตภัณฑ์ และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ กำหนด.