สรุปข่าวสำคัญ เกิดอะไรขึ้นในรอบสัปดาห์

CPF ผลิตอาหารเพื่อผู้ป่วย

ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหิดล ร่วมกับนายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข CEO ธุรกิจอาหาร บมจ.ซีพีเอฟ พัฒนานวัตกรรมผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้ป่วย “เราทดลองใช้กับผู้ป่วย จนพบว่ามีสุขภาพแข็งแรงขึ้นเป็นที่พอใจ จึงเริ่มนำอาหารเหลว อย่าง ซุปไก่ผสมฟักทอง-ไข่ ตรา “สมาร์ทซุป” ที่คิดค้นร่วมกันกับซีพีเอฟมาวางขายที่ รพ.รามาฯ ทำให้สะดวกและโหลดใส่สายยางได้ทันที แถมเก็บได้นาน 12 เดือนในอุณหภูมิปกติด้วย.

งัวเงียกำจัดขยะอุตสาหกรรม

ขยะอุตสาหกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเติบโตตามภาคอุตสาหกรรม และพูดกันมานานว่าจะหาวิธีการกำจัด มาถึงวันนี้ ก.อุตสาหกรรมกับ ก.พลังงานเพิ่งหันมาวางแผนให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในการกำจัดขยะ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่รถ-โทรศัพท์ และขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย จนปัจจุบันมีขยะอุตสาหกรรม 30 ล้านตันต่อปี เป็นขยะอันตราย 3 ล้านตันต่อปี โดยจะใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 2,000 ล้านบาทมากำจัดขยะเหล่านี้.

สร้างมาตรฐานสังคมออนไลน์

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประชุมเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มใหญ่ๆของโลก อาทิ เฟซบุ๊ก กูเกิล และไลน์ ร่วมเวทีแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติเพื่อรับมือกับปัญหา และวิธีการทำธุรกรรมในโลกโซเชียลที่ถูกต้องและดี ให้ตระหนักถึงโอกาส และภัยคุกคามต่างๆ เพราะปัจจุบันมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียกว่า 2,400 ล้านราย 50% อยู่ ในกลุ่มเอเปก ในปี 2561 มีคลิปที่ละเมิดหลักเกณฑ์ชุมชนถูกถอดไป 7.8 ล้านคลิป.

“แอมเวย์ไทย” ยอดขายกระฉูด

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ แอมเวย์ (ประเทศไทย) เผย แอมเวย์ไทยสามารถปิดยอดขายรวมในปี 61 ได้ถึง 19,000 ล้านบาท เติบโต 4% สูงสุดติดต่อกัน 4 ปี และกว่า 70% เป็นยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อ
สุขภาพและความงาม ส่วนปี 62 มีแผนจะลงทุนในด้านดิจิทัล และผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสนองความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น ส่วนยอดขายแอมเวย์ทั่วโลกมีมูลค่า 8,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.

ก.ล.ต.เตือนถูกตุ๋นลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล

สำนักงาน ก.ล.ต.ออกแถลงการณ์เตือนว่าขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากถูกหลอกให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียโดยอ้างว่าเป็นบริษัทรับขุดเหรียญดิจิทัล ซึ่งเป็นสาขาจากต่างประเทศ และ มีที่ตั้งอยู่ในไทย จึงขอเตือนว่าอย่าหลงเชื่อไปลงทุนในธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้ และถ้าพบข้อสงสัย โปรดแจ้ง Help Cen ter โทร.1207.

BGRIM ขยายการลงทุนแหลก

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ แจ้งว่า บี.กริม เพาเวอร์ เซอร์วิส (แหลมฉบัง) บริษัทย่อยได้เข้าซื้อขายหุ้น 100% ในบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 ซึ่งมีโรงไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มูลค่า 3,300 ล้านบาท กําลังการผลิตไฟฟ้า 124 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับ “Energy China” ลงทุนโรงไฟฟ้าไฮบริด ในสนามบินอู่ตะเภา เฟส 1 อีก 3,600 ล้านบาท.

พิสูจน์ลายมือ “เกษม ณรงค์เดช” ปลอม

กองพิสูจน์หลักฐาน กลาง สตช.ได้ส่งผลตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของนายเกษม ณรงค์เดช ที่ลงในเอกสารสำคัญในการมอบอำนาจ และการโอนย้ายถ่ายเทหุ้นของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี โฮลดิ้ง จำกัด ที่นายเกษมนำมาร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ปลอมลายมือชื่อตนเอง ปรากฏผลว่า ปลอมและไม่ใช่ลายมือบุคคลคนเดียวกัน ทั้งนี้ เอกสารที่นายเกษมส่งมา ยังมีเอกสารแจ้งความ ผู้ ปลอมลายมือตน ใบซื้อ ขายหุ้น สำเนาแต่งตั้งตัวแทน ฯลฯ.

ทอท.ลุยถั่วสร้างเฟส 2 สุวรรณภูมิ

ผู้บริหาร ทอท.แถลงยืนยันจะเสนอรายงานความจำเป็น และข้อคิดเห็นความต้องการของผู้ให้บริการสายการบินต่างๆต่อการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลัง (เฟส) ที่ 2 ด้านฝั่งตะวันออก เฉียงเหนือของอาคารหลังเดิม ให้บอร์ด ทอท.รับทราบตามข้อท้วงติง และข้อเสนอแนะของบอร์ด ทั้งนี้ ไม่ได้หมาย ความว่า ทอท.จะดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามนโยบาย ที่ให้มีการระงับการก่อสร้างแต่อย่างใด.

“โพสต์ ทูเดย์” ประกาศ ปิด-“มติชน” สมัครใจจร

ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.โพสต์ พับลิชชิ่ง ซึ่งถือสื่อสิ่งพิมพ์ในมือ 3 ฉบับคือ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ บางกอกโพสต์ อายุ 73 ปี โพสต์ ทูเดย์ หนังสือพิมพ์ภาษาไทยแนวธุรกิจอายุ 17 ปี และหนังสือพิมพ์แจกฟรี M 2 F ประกาศ ปิดหนังสือพิมพ์ 2 เล่มหลังในเดือน มี.ค.และยังคงมีบางกอกโพสต์และสื่อดิจิทัลไว้ ขณะที่ค่ายมติชนให้พนักงานลาอีกรอบโดยจ่ายเงินชดเชยให้ตามอายุงานตั้งแต่ 120 วัน- 30 ปีขึ้นไปตาม ก.ม. แถมเงินพิเศษให้อีก 10 เดือนด้วย.