พาณิชย์ผนึกกำลังเอกชน จัดมหกรรมเซลล์ทั่วไทย 28 วัน ลดภาระค่าครองชีพ

“พาณิชย์” ผนึกกำลังเอกชนจัดมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วไทย 28 วัน ลดสูงสุด 80% คาดมีเงินสะพัด 55,000 ล้านบาท ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน 16,500 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2561 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงานมหกรรมลดราคาสินค้าภายใต้งาน “ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale” ที่กระทรวงพาณิชย์ว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนจัดงานลดราคาสินค้า เป็นครั้งที่ 5 หลังจากที่ได้จัดมาแล้ว 4 ครั้งในปี 57-60 โดยครั้งนี้ถือว่าจัดใหญ่ที่สุด คึกคักที่สุด เพราะมีห้างร้านเข้าร่วมกว่า 13,500 สาขาทั่วประเทศ และจะลดราคาขายสินค้าสูงสุดถึง 80% มีระยะเวลารวม 28 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.61-9 ม.ค.62 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยและช่วยลดภาระค่าครองชีพ โดยสินค้าที่จะลดราคา ได้แก่ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน หมวดเครื่องครัว หมวดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า หมวดวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น 

“คาดว่าตลอดการจัดงาน จะมียอดขายประมาณ 55,000 ล้านบาท ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เฉลี่ย 30% หรือคิดเป็นเงิน 16,500 ล้านบาท ทำให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าในปริมาณมากขึ้น หรือซื้อสินค้าในปริมาณเท่าเดิม แต่ใช้จ่ายเงินลดลง และทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีให้คึกคัก”

นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ยังได้จัดงานธงฟ้า เพื่อจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับประชาชนในจังหวัดภาคเหนือและภาคกลาง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ วันที่ 9–10 ธ.ค.61 , จ.สิงห์บุรี วันที่ 18-21 ธ.ค.61 , กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี วันที่ 24–27 ธ.ค.61และ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 4–7 ม.ค.62 ส่วนในระยะต่อไปจะจัดอีก 15 จังหวัด ในพื้นที่ภาคกลาง 4 จังหวัด ภาคใต้ 6 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด 

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงฯยังได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรในการช่วยเหลือร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยในด้านการซื้อสินค้าราคาถูกเข้าร้าน บริษัท ออลล์ ดิสเคาท์ จำกัด จะเป็นคนกลางในการรับคำสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และไปจัดซื้อสินค้าราคาพิเศษจากผู้ผลิตและนำไปจัดส่งให้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จะเข้ามาช่วยวางระบบเครือข่ายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พัฒนาระบบบริหารจัดการ จุดขายและจุดชำระเงิน และเพิ่มบริการเติมเงินมือถือ ชำระค่าสาธารณูปโภค 

ขณะที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จะช่วยสนับสนุนสินเชื่อ ผ่านโครงการประชารัฐเสริมแกร่งการค้าสู่ชุมชน สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐเพื่อขยายกิจการ หรือสำหรับเป็นทุนหมุนเวียนซื้อสินค้า, ธนาคารไทยพาณิชย์ มอบสินเชื่อเตรียมพร้อมเพิ่มวงเงินหมุนเวียนให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ส่วนบริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด จะช่วยพัฒนาและให้บริการระบบโลจิสติกส์

“ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ได้ เพิ่มรายได้และสภาพคล่องให้ร้านธงฟ้าประชารัฐ รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าการเกษตร เกษตรแปรรูป สินค้าชุมชน และสินค้าโอทอป ของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจะทำให้ร้านธงฟ้าประชารัฐมีสินค้าและบริการครบถ้วน มีความสะดวก ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของพี่น้องประชาชน” รมว.พาณิชย์ กล่าว