เจาะเบื้องหลัง โปรฯฮิต ซื้อสินค้าผ่อน 0% สงสัยไหม ใครได้ประโยชน์?

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เจาะเบื้องหลัง โปรฯฮิต ซื้อสินค้าผ่อน 0% สงสัยไหม ใครได้ประโยชน์?

Date Time: 19 ต.ค. 2561 13:22 น.

Video

บุกโรงงานญี่ปุ่น ทัวร์ Glico ยักษ์ใหญ่อาหาร 3 แสนล้านเยน | BrandStory EP.27

Summary

ทีมข่าวเจาะประเด็น เจาะเบื้องหลังวิธีซื้อสินค้าด้วยทางเลือกยอดนิยม อย่างการผ่อนสินค้า 0% 10 เดือน หลายคนตั้งข้อสงสัยในใจ “ผ่อน 0% แล้วใครได้ประโยชน์” “ธนาคารจะยอมให้เราผ่อน 0% ทำไม”...

Latest


ทีมข่าวเจาะประเด็น เจาะเบื้องหลังวิธีซื้อสินค้าด้วยทางเลือกยอดนิยม อย่างการผ่อนสินค้า 0% 10 เดือน หลายคนตั้งข้อสงสัยในใจ “ผ่อน 0% แล้วใครได้ประโยชน์” “ธนาคารจะยอมให้เราผ่อน 0% ทำไม” รายงานพิเศษชิ้นนี้มีคำตอบ...

ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ให้ความรู้ผ่านทีมข่าวเจาะประเด็นว่า เมื่อคุณซื้อสินค้าในร้านค้าที่เปิดให้มีการผ่อน 0% หลายคนคงนึกสงสัยในใจว่า การซื้อสินค้าเช่นนี้ ธนาคารทำไปเพื่ออะไร และธนาคาร หรือร้านค้าจะได้ประโยชน์อะไร คำตอบก็คือ...

ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับ “ลูกค้า”

1. การซื้อสินค้าด้วยวิธีผ่อน 0% ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องจ่ายเงินก้อนออกไป อีกทั้ง ยังมีกำลังซื้อสินค้าที่มีราคาแพงได้อย่างไม่ยากเย็น

ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับ “ธนาคาร”

1. การที่ธนาคารยอมให้คุณซื้อสินค้าด้วยการผ่อน 0% ทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตใบนั้นๆ เกิดความผูกพันกับบัตร และเกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพราะในระหว่างนั้น บัตรดังกล่าว มีการผ่อนสินค้าหลายเดือนติดต่อกัน

2. ผู้ใช้งานบัตรเครดิตจำนวนมาก จะมีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ ฉะนั้น ธนาคารแห่งต่างๆ จึงเกิดการแข่งขันแย่งชิงลูกค้า หากธนาคารใดมีแรงจูงใจที่ทำให้คนใช้บัตรของตัวเอง เช่น ผ่อน 0% ได้, ใช้บัตรเครดิตเป็นส่วนลดได้ ย่อมทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้บัตรเครดิตของธนาคารที่มีทางเลือกมากกว่า

3. การที่ธนาคารยอมให้คุณซื้อสินค้าด้วยการผ่อน 0% จะทำให้โอกาสที่ผู้ถือบัตรตัดสินใจปิดการใช้งานบัตรเครดิตนั้นๆ น้อยลง เนื่องจากผู้ถือบัตรมีภาระผูกพันกับบัตรเครดิตใบนั้นๆ อยู่

4. ธนาคารได้รับค่าธรรมเนียมจากร้านค้าที่นำเครื่องรูดบัตรไปให้บริการกับลูกค้า 2% จากราคาสินค้า (คุณอาจจะสังเกตเห็นได้ว่า ร้านค้าบางร้านไม่อยากแบกรับค่าธรรมเนียมดังกล่าว จึงมีค่าชาร์จบัตรเครดิตจากลูกค้า 2-3%)

5. หากลูกค้าผ่อนชำระค่าสินค้าไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด จะมีค่าธรรมเนียมในการทวงถาม เช่น จดหมายทวงถามหนี้บัตรเครดิต, SMS ทวงถาม, เจ้าหน้าที่โทรมาทวงถาม (บางธนาคารยกหน้าที่ดังกล่าวให้กับเอกชนแห่งอื่นเป็นผู้ทำหน้าที่)

6. หากผู้ถือบัตรเครดิตผ่อนชำระค่าสินค้าเกินระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปีทันที เช่น ราคาสินค้า 50,000 บาท ธนาคารคิดดอกเบี้ยจากยอดเต็ม คือ 50,000 บาท (ไม่ได้คิดจากยอดคงเหลือที่มีการผ่อนไปแล้ว) บวกดอกเบี้ย 18% ต่อปี เท่ากับ 59,000 บาท

ขณะที่ พฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตของคนกรุงเทพฯ ปี 2560 พบว่า ผู้ถือบัตรเป็นหนี้เยอะ, หาเงินจ่ายไม่ทัน และจ่ายหนี้ไม่ตรงกำหนดมีมากถึงร้อยละ 40.86 ซึ่งจุดนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า ธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ยบัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก

ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับ “ร้านค้า”

1. การที่ธนาคารยอมให้ผู้ถือบัตรเครดิตซื้อสินค้าด้วยการผ่อน 0% ย่อมทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าภายในร้านมากขึ้น และเร็วขึ้น

2. ร้านค้ามียอดขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น

3. ร้านค้าไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่จ่ายเงินให้กับทางร้าน แต่ให้ธนาคารเข้ามาแบกรับในเรื่องของการผ่อนชำระให้

4. ร้านค้าไม่ต้องเช็กเครดิตของลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าภายในร้าน เพราะลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตย่อมได้รับการ verify (ตรวจสอบ) เครดิตมาแล้วจากทางธนาคาร

อย่างไรก็ดี ผศ.ดร.ณดา ทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วงไว้ว่า “ผู้ถือบัตรเครดิตอย่าปล่อยให้มียอดค้างชำระ คุณควรจ่ายเต็มวงเงินทุกรอบบิล จ่ายตรงเวลา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีหนี้บัตรเครดิต ย่อมหมายความว่า ธนาคารกำลังคิดค่าดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมากกับคุณอยู่”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ