กกร.หนุนตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม!ลงขันจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กกร.หนุนตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม!ลงขันจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์

Date Time: 5 ก.ย. 2561 09:30 น.

Summary

  • กกร.จะส่งหนังสือร้องเรียนของกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคม ส.อ.ท.ไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้ทบทวนร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

Latest

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้ 20 ก.พ.2568 อัปเดตราคาน้ำมันทุกชนิดล่าสุดลิตรละกี่บาท

 

ให้ผู้ผลิตผู้จำหน่ายตีทะเบียน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า กกร.จะส่งหนังสือร้องเรียนของกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์โทรคมนาคม ส.อ.ท.ไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้ทบทวนร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น โดยขอให้คงร่าง พ.ร.บ.เดิม ที่กำหนดให้มีการตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฯ “อุตสาหกรรมนี้ มีสัดส่วนต่อจีดีพีถึง 20% มีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่าปีละ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่ง กกร.เห็นด้วยกับการมีกองทุนนี้ และให้กลุ่มไฟฟ้าฯไปจัดทำรายละเอียดส่งมา เพื่อส่งเรื่องต่อไปยัง สนช. ซึ่งร่างพ.ร.บ.นี้ ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีการตัดบางมาตราออกไป โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการตั้งกองทุนฯ ซึ่งการที่กฤษฎีกาตัดออกอาจมองเรื่องการใช้เงินให้ถูกต้อง หรือความไม่โปร่งใส”

ทั้งนี้ เดิม ส.อ.ท.ได้เสนอจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม กล่าวคือภายใน 1 ปีแรก กำหนดให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าฯจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จัดส่งแผนความรับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองผลิตและจำหน่าย และมีส่วนรับผิดชอบ “ค่าใช้จ่าย” ในการกำจัดซาก โดยจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อนำเงินมาใช้เป็นค่าบริหารจัดการสนับสนุนค่าใช้จ่ายของ “ศูนย์รับคืนซาก” สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเรื่องการนำกลับมาใช้ใหม่และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนการทิ้ง รับคืน รวบรวมและขนส่งซากนั้น กำหนดให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่จัดให้มี “ศูนย์รับคืนซาก” ขึ้นจังหวัดละ 1 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯจัดให้มีเขตละ 1 แห่ง

นายสุพันธุ์กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ใหม่ได้ตัดมาตรานี้ออกทั้งหมด แต่เขียนเพิ่มว่า “ให้เฉพาะผู้ผลิตต้องมาบริหารจัดการซากผลิตภัณฑ์กันเอง” ซึ่งประเด็นนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อาจทำไม่ได้และต้องได้รับโทษที่รุนแรงขึ้น โดยกำหนดโทษอาญาจำคุก 2 ปี และมีค่าปรับที่สูงขึ้นเป็น 500,000 บาท จากเดิมที่กำหนด 100,000-200,000 บาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ