ฉีกภาพลักษณ์พัทยา เปิดประสบการณ์ ล่องเรือยอชต์-แล่นเรือใบเล็กตามรอย ร.9

“มิ่งขวัญ” เผย "TTM+ 2018” ฉีกภาพลักษณ์พัทยาแจ้งเกิด “ลัคซูรี่ เดสติเนชั่น” รับนักท่องเที่ยวไฮเอนด์จากทั่วโลกได้ เปิดประสบการณ์ “ล่องเรือยอชต์-ดำน้ำเกาะUnseen-แล่นเรือใบเล็กตามรอยในหลวง ร.9”

นางมิ่งขวัญ เมธเมาลี ประธานฝ่ายการตลาด สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมงาน Thailand Travel Mart Plus the Greater Mekong Subregion 2018 (TTM+ 2018) ครั้งที่ 17 เมื่อวันที่ 13-15 มิถุนายน 2018 ที่โอเชี่ยน มารีน่า ยอร์ช ที่ผ่านมา ว่า เป็นโอกาสอันดีที่กลุ่มผู้ประกอบการนำเที่ยวได้มาร่วมออกงานและแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างกัน สามารถสร้างมูลค่าตลาดให้กับกลุ่มผู้ประกอบการนำเที่ยวที่มาร่วมออกงาน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวพัทยาที่วันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมากถือว่ามีความสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการเป็น ลัคซูรี่ เดสติเนชั่น ที่ให้การรองรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ จากทั่วโลกได้ ทั้งคู่รัก ครอบครัว หมู่คณะที่ต้องการจัดปาร์ตี้ส่วนตัวบนเรือ ในราคาที่เหมาะสมไม่แพงอย่างที่คิด

ทั้งนี้ พัทยา ยังมีความพร้อมในเรื่องของการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งทางบก ทางทะเล ที่พัก มีโรงแรมหรูหราระดับห้าดาว อาหารทะเลสดๆ รวมถึงกิจกรรมทางทะเลที่สามารถจัดทริปท่องเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ ของพัทยาโดยเรือยอชต์ และครุยเซอร์ได้ หรือจัดทริปท่องเที่ยวทางทะเลแบบ One Day trip จากพัทยาไปหัวหินได้ภายใน 1 วัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

นางมิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า ด้วยความพร้อมของพัทยาจึงได้นำเสนอ Product ใหม่ในงาน TTM+2018 นี้ คือ ทริปล่องเรือยอชต์ ดำน้ำเกาะ Unseen พัทยา และทริปแล่นเรือใบเล็กตามรอยในหลวง ร.9 (Sailboat Eco-Friendly) เป็นการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวพัทยาในรูปแบบใหม่ๆ ฉีกภาพลักษณ์เดิมให้โลกรับรู้ว่า นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวเกาะล้าน และการเที่ยวกลางคืนแล้วยังมีกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

สำหรับ เส้นทางเดินเรือยอชต์ และเส้นทางแล่นเรือใบเล็ก ได้จัดโปรแกรมเลือกเฉพาะเกาะ Unseen เท่านั้น เน้นการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีการให้อาหารปลา หรือเก็บสัตว์ทะเลกลับมาโดยเด็ดขาด อาทิ เกาะที่อยู่ในเขตอนุรักษ์ภายใต้การดูแลของทหารเรือ เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมาก ที่สำคัญหลังสิ้นสุดทริป เที่ยวมีเชิญชวนนักท่องเที่ยวช่วยกันเก็บขยะกลับมาขึ้นฝั่ง สามารถเที่ยวและจบครบใน 1 วันได้.