
ครม.รับลูกศึกษาขยายสนามบินบุรีรัมย์ ในปี 2563 เพื่อรองรับอีเวนต์ขนาดใหญ่ ส่วนสุรินทร์ขอสนามบินพาณิชย์ แต่ ครม.ขอให้รอไปก่อน ขณะที่คมนาคมรับรีบขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจรให้ ด้าน “วีระศักดิ์” ประกาศ “สบายใจ” ไทยพร้อมแล้วรับการแข่งขันระดับโลก โมโตจีพี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ จ.บุรีรัมย์ (ครม.สัญจร) ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายสนามบินบุรีรัมย์ ตามที่มีข้อเสนอของภาคเอกชนให้ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ขนาด 2 ชั้น และขยายทางวิ่งจาก 2,100 เมตร เป็น 3,000 เมตร เพื่อให้รองรับอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่จะมีเครื่องบินขนาดใหญ่หรือเครื่องจัมโบ้มาลงได้ในปี 2563 เช่น กรณีมีการแข่งขันรถฟอร์มูลาวันก็สามารถ ขนส่งรถแข่งมาลงที่สนามบินบุรีรัมย์ได้เลย
ทั้งนี้ ขีดความสามารถของสนามบินบุรีรัมย์ในปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 1.7 ล้านคน ขณะที่มีจำนวนผู้โดยสาร 230,000 คน ดังนั้น ตามที่หอการค้า จ.สุรินทร์เสนอของบประมาณเพื่อให้ศึกษาการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์ใน จ.สุรินทร์ ทางกระทรวงคมนาคมขอรับไปพิจารณาก่อน เพราะ สนามบินบุรีรัมย์ ซึ่งห่างจากสุรินทร์เพียง 80 กม. ยังรองรับผู้โดยสารได้อีกมาก แต่กระทรวงคมนาคมรับที่จะเร่งขยายถนนช่วงที่เป็นคอขวดจากสุรินทร์มาถึงบุรีรัมย์ให้เป็นถนน 4 ช่องทางโดยเร็ว
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวง คมนาคมได้ขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของสนามบินบุรีรัมย์ โดยได้ขยายห้องอาคารผู้โดยสารขาออก เป็น 450 คนแล้ว พร้อมทั้งได้ขยาย ลานจอดเครื่องบินโบอิ้ง 737 จาก 2 ลำ ให้จอดได้ 6 ลำ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในเดือน มิ.ย.นี้
ด้านนายสมบัติ สมบูรณ์เทอดธนา ประธานหอการค้า จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมขอนำเรื่อง ที่หอการค้าเสนอของบศึกษาการสร้างสนามบินพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ 40 ล้านบาท ไปพิจารณาก่อน โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่ายากกลัวสร้างขึ้นมาแล้วไม่มีคนใช้งาน แต่ในมุมมองของคน จ.สุรินทร์ เห็นว่าถ้าสุรินทร์มีสนามบินพาณิชย์คนจะมาใช้บริการเยอะกว่าสนามบินของบุรีรัมย์แน่นอน เพราะการขยายตัวของธุรกิจในสุรินทร์โต 10% ต่อปี โตกว่าบุรีรัมย์ และภูมิประเทศติดกับกัมพูชา สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางถนนกับจังหวัดเสียมเรียบ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวปีละ 4-5 ล้านคน เป็นชาวจีนมาปีละ 1-2 ล้านคน จะสามารถเชื่อมโยง ให้มาเที่ยวสุรินทร์ได้ เนื่องจากสุรินทร์เป็นเมืองที่เป็นจุดท่องเที่ยวระดับโลกมีช้างเยอะที่สุดในประเทศไทย โดยประมาณการว่า ถ้าสนามบินพาณิชย์ของสุรินทร์เกิดขึ้นจะทำให้มูลค่าธุรกิจโตขึ้นอีก 5,000 ล้านบาท หรือจากปัจจุบันปีละ 19,000 ล้านบาท เป็น 26,000 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การขยายสนามบินบุรีรัมย์ เพื่อรองรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบโมโตจีพีในปีนี้คงไม่ทัน และได้ตรวจสอบแล้วว่า รถมอเตอร์ไซค์ที่จะเข้าแข่งขันจะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อผ่านการตรวจพิธีศุลกากรแล้วปิดผนึก เพื่อให้เป็นความลับและมาเปิดใหม่อีกทีที่หน้าสนามแข่งที่ จ.บุรีรัมย์เลย โดยสนามบินบุรีรัมย์ในปัจจุบันสามารถรองรับเครื่องบินโบอิ้ง 737 สิ่งที่ต้องเตรียมขณะนี้คือดูว่าในการรองรับการแข่งขันจะต้องมีที่โดยสารกี่ที่นั่ง เพื่อจะเพิ่มจำนวนเครื่องบินมาสู่ จ.บุรีรัมย์ได้ ดังนั้น ปีนี้คงได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เตรียมไว้ขาดตกบกพร่องหรือไม่
ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.ครั้งนี้ รับทราบถึงการเตรียมจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบโมโตจีพี ในเดือน ต.ค.ปีนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามที่ 5 ว่า ภายหลังจากได้ไปดู การจัดการแข่งขันโมโตจีพี สนามที่ 4 ที่สนามซีร์กุยโต เต เคเรซ ที่ประเทศสเปน รู้สึกสบายใจขึ้นมากกับการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพราะขนาดสนามแข่งที่ประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าบุรีรัมย์ และเป็นเจ้าภาพมาแล้วถึง 30 ปี ก็ยังมีปัญหารถติดหลังการแข่งขันเลิกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง โดยเมืองของเขาไม่มีรถบัสรับส่ง จากตัวเมืองถึงสนามบินในขณะที่ประเทศไทยมีการเตรียมรองรับเอาไว้แล้ว พร้อมกันนี้ประเทศไทยยังเตรียมรถไฟรองรับไว้ด้วย
ส่วนเรื่องสถานที่พักได้ถือโอกาสที่การประชุมครั้งนี้มีผู้ว่าราชการจาก 4 จังหวัดคือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มาอยู่พร้อมกัน จึงขอให้แต่ละจังหวัดไปจัดเตรียมสถานที่พักของแต่ละจังหวัดกับบริษัทนำเที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องที่พักและการเดินทางสำหรับผู้ที่จะมาร่วมชมการแข่งขันในครั้งนี้ที่จะมากันร่วม 200,000 คน เพราะพฤติกรรมของผู้ที่เข้าร่วมชมการแข่งขันรายการนี้ จะพักในจังหวัดรอบๆและใช้วิธีเดินทางเข้ามายังสนามแข่ง นอกจากนั้นให้จัดเตรียมโฮมสเตย์ และที่พักในรูปแบบเต็นท์เอาไว้ด้วย.