
“สมคิด” ยกตัวเลขเศรษฐกิจไทยสุดหรู ล่อใจนักลงทุน ย้ำยังทะยานต่อไม่หยุดแค่นี้ มั่นใจเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศสู่ยุคใหม่ พร้อมเป็นศูนย์กลางการลงทุน-คมนาคมขนส่ง-ท่องเที่ยวในอาเซียน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนา “Thailand Taking off to New Heights” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 3,000 คน ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวจาก 2.8% สู่ 4% ในไตรมาส 4 ของปี 60 มูลค่าส่งออกจาก 214,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 236,000 ล้านเหรียญฯ ขยายตัวกว่า 10% คำขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มจาก 983 โครงการ มูลค่า 197,580 ล้านบาทในปี 58 เป็น 1,456 โครงการ กว่า 600,000 ล้านบาทในปี 60 เพิ่มขึ้น 224% และคาดจะสูงกว่า 700,000 ล้านบาทในปีนี้ การลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มจาก 83,339 ล้านบาทในปี 58 เป็น 392,142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 เท่า โดยเฉพาะในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพิ่มจาก 52,700 ล้านบาท เป็น 296,890 ล้านบาท เพิ่มเกือบ 6 เท่าตัว
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่มาไทยก้าวกระโดดจาก 29.9 ล้านคน เป็น 35.4 ล้านคนในปี 60 ขณะที่เที่ยวบินเข้าและออกจากไทยเพิ่มจาก 363,880 เที่ยวบินในปี 58 เป็น 416,552 เที่ยวบิน ในปี 60 เพิ่มขึ้น 15% ขณะเดียวกัน ดุลการค้าและดุลชำระเงิน เข้าสู่ยุคเกินดุล ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มจาก 155,000 ล้านเหรียญฯ ในปี 58 เป็น 214,000 ล้านเหรียญฯในปี 60 ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ทะลุ 1,800 จุดเป็นครั้งแรก สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเพิ่มจาก 663,684 ล้านบาทในปี 58 เป็น 990,764 ล้านบาทในปี 60 เพิ่มขึ้น 50% ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศ ปรับสถานะของไทยดีขึ้น ทั้งขีดความสามารถแข่งขัน และความยากง่ายในการทำธุรกิจ
“แม้พัฒนาการด้านต่างๆ จะดีขึ้น แต่นี่ไม่ใช่จุดสูงสุด เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโฉมหน้าใหม่ของเศรษฐกิจไทย ที่กำลังจะเกิดขึ้นในทศวรรษใหม่ การเติบโตและพัฒนาการยังทะยานไปได้อีก และจะกระจายความมั่งคั่งใหม่นี้ไปทุกส่วนของสังคม ถ้าไม่มีปรากฏการณ์เหนือการคาดหมาย มั่นใจว่า โครงการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ และที่จะขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นในอีก 3-4 ปีข้างหน้า โฉมหน้าเศรษฐกิจไทยจะเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ในระดับการพัฒนาที่สูงขึ้น และพร้อมเป็นศูนย์กลางการลงทุน การคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยวในอาเซียนอย่างแท้จริง”
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนไทยมี 3 กลุ่มใหญ่ คือโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจกต์ โครงการอีอีซี และโครงการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมประเทศ เช่น โครงการรถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ระยะทาง 464 กิโลเมตร วงเงินรวม 400,000 ล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ วงเงินรวม 280,000 ล้านบาท โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค โครงการลงทุนด้านท่าอากาศยาน รวมทั้งโครงการลงทุนด้านพลังงานกว่า 1 ล้านล้านบาทในปี 60-64 และยังเตรียมโครงการลงทุนไฟฟ้าในปี 61-65 อีกกว่า 700,000 ล้านบาท
“ไม่มีช่วงใดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจสมัยใหม่ของไทย ที่จะมีโครงการปฏิรูปและการลงทุน เพื่อพลิกโฉมระบบเศรษฐกิจของประเทศในระดับนี้มาก่อน ซึ่งทุกมาตรการที่ผลักดันและขับเคลื่อน มีจุดประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ทันสมัย เติบโตได้อย่างยั่งยืนสอดรับความเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งอนาคต”
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า ไทยกำลังจะก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครบทุกด้าน ทั้งอากาศ น้ำ บก และราง โดยในปี 59 ในแผนปฏิบัติการมีการลงทุน 20 โครงการ วงเงิน 1.796 ล้านล้านบาท ปี 60 มี 36 โครงการ วงเงิน 895,757 ล้านบาท ปี 61 อีก 44 โครงการ วงเงิน 2.02 ล้านล้านบาท.