สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร เผยประชาชนคนไทยเตรียมร่วมงานพระบรมศพ ยอดจองห้องพักในพื้นที่ข้าวสารเต็ม 100% ขณะที่สถานบันเทิงย่านดังกล่าวให้ความร่วมมือในการงดให้บริการตั้งแต่วันที่ 23-29 ต.ค.ส่วนยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังโตต่อเนื่อง คาดหลังรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดบริการย่านพระนครคาดธุรกิจที่พัก ร้านอาหารจะคึกคักมากขึ้น
นายสง่า เรืองวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัดดี้ กรุ๊ป ในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า จากการตรวจสอบยอดการจองห้องพักล่วงหน้าของห้องพักกว่า 8,000 ยูนิต ที่รองรับได้ในย่านพระนคร พบว่า ในวันที่ 25-26 ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช มีลูกค้าชาวไทยทยอยจองห้องพักมาตั้งแต่เดือน พ.ค.จนเต็ม 100% ในพื้นที่ข้าวสารแล้ว และคาดว่าบริเวณอื่นๆในย่านพระนครจะมีอัตราการจองไม่ต่ำกว่า 80-90% โดยย่านถัดไปที่ยังพอรองรับได้ เช่น สามเสน เป็นต้น โดยการจองเริ่มมีเข้ามาทันทีที่มีการประกาศวันในการจัดพระราชพิธีอย่างชัดเจน
นอกจากนั้น ผู้ประกอบการในย่านถนนข้าวสารประเภทสถานบันเทิง ให้ความร่วมมือในการงดให้บริการตั้งแต่วันที่ 23-29 ต.ค.เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งการแสดงความไว้อาลัย และจะเริ่มงดกิจกรรมแสงสีและบันเทิงต่างๆ แต่ร้าน อาหารและโรงแรมยังเปิดให้บริการตามปกติ เนื่องจาก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง เป็นไปตามการขยายตัวของอัตราการเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่ม ตลาดที่มีการเติบโตสูงคือ ตลาดจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) ส่งผลให้สัดส่วนตลาดเอเชียสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับตลาดยุโรป 70% ทั้งที่ในอดีตตลาดท่องเที่ยวย่านข้าวสาร จะมีกลุ่มตะวันตกเป็นลูกค้าหลัก
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย.พบว่า มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80% แม้จะยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น และคาดว่าเมื่อเข้าสู่เดือน ต.ค.ในช่วงสัปดาห์แรกๆ ตลาดเอเชียก็ยังคงเดินทางมาในอัตราปกติ แต่จะไปอ่อนตัวลงราวช่วงปลายเดือน ต.ค.เนื่องจากห้องพักถูกลูกค้าชาวไทยจับจองล่วงหน้าไปหมดแล้ว โดยประเมินอัตราเข้าพักเฉลี่ยในเดือน ต.ค.ไว้ในอัตราที่สูงถึง 80-90% อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น คาดว่าจะกลับมาสูงอีกครั้ง นับตั้งแต่ พ.ย. ไปจนถึงเดือน ม.ค. มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 90% ขึ้นไป เนื่องจากตรงกับฤดูกาลเดินทางของยุโรปที่เป็นกลุ่มหลัก
“ตลาดต่างชาติในช่วงปลายเดือน ต.ค.อ่อนตัวลงไป เพื่อเปิดทางให้ตลาดคนไทยเข้ามาแทนที่ในช่วงที่ประเทศอยู่ในวาระโอกาสสำคัญ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะมีการปิดการจราจรเป็นวงกว้าง และมีการจัดรถโดยสารรอบนอก เช่น บริเวณสนามม้านางเลิ้ง เพื่อนำคนเข้ามาในพื้นที่ หลีกเลี่ยงความแออัดจากรถส่วนตัว แต่ต้นเดือน พ.ย.สถานการณ์ก็จะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งปีนี้ถือว่าการท่องเที่ยวเติบโตดีตามที่คาดการณ์ไว้”
นายสง่ากล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการลงทุนโรงแรมขนาด 3 ดาว หรือบูติคโฮสเทล เพิ่มขึ้นในย่านพระนครกว่า 300 ยูนิต แต่ด้วยการเติบโตของนักท่องเที่ยว ทำให้สามารถซึมซับความต้องการไปยังห้องพักที่มีอยู่ในตลาดได้พอดี และที่ต้องจับตามองหลังจาก 3 ปีต่อไปนี้คือ เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดให้บริการ ซึ่งจะมีสถานีที่โรงเรียนสตรีวิทยา และบริเวณหน้ากองสลากเก่า จะช่วยทำให้เกิดการจราจรหมุนเวียนนำนักท่องเที่ยวเพิ่มเข้ามาในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 30% จากเดิมที่ย่านนี้ไม่มีระบบขนส่งมวลชนทางรางมาก่อนเลย ทำให้คาดว่าจะทำให้เกิดการลงทุนเปิดที่พัก และร้านอาหารใหม่ๆเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับกระแสการเดินทางนับตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. ตลาดจีนเที่ยวไทย มีจำนวนสะสมกว่า 6.6 ล้านคน ลดลงราว 0.35% ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับหลายเดือนที่ผ่านมาที่ติดลบสูงมาก ส่วนตลาดเกาหลีใต้มีจำนวนกว่า 1.14 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 14.15% และญี่ปุ่นมียอดสะสมแล้ว 1.02 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.31%.