นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่าผลการตรวจสอบรถยนต์หรู 4 ยี่ห้อ ซึ่งประกอบด้วย ลัมโบกินี มาเซ ราติ เฟอร์รารีและปอร์เช่ 250 คัน จาก 300 คันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหลักฐานจากประเทศอังกฤษให้กรมศุลกากรตรวจสอบพบว่า มีรถจำนวน 250 คัน เสียภาษีนำเข้าไม่ครบถ้วน ทำให้ภาษีขาดหายไป 4,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 50 คัน กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ซึ่งยังไม่สามารถประเมินว่ารถยนต์ทั้ง 50 คัน ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบจะมีภาษีขาดหายไปเท่าไหร่ โดยแนวทางการเรียกเก็บภาษีที่หายไปอยู่ระหว่างเชิญผู้นำเข้ามารับทราบข้อมูล ซึ่งผู้นำเข้าสามารถขออุทธรณ์ได้ภายใน 60 วัน แต่หากไม่มีข้อสรุปก็จะส่งเรื่องเข้าสู่ศาลแพ่งเพื่อเรียกภาษีที่ขาดกลับคืนเข้าคลัง
“ที่ผ่านมา ผู้นำเข้าต้องสำแดงราคารถยนต์ให้ถูกต้อง และตรงกับความจริงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินภาษีอากร ซึ่งในกรณีนี้ ถ้าหากเจ้าหน้าที่เห็นว่าราคารถยนต์ที่สำแดงต่ำเกินไปจะปรับราคาให้สูงขึ้น แต่ถ้าหากเห็นด้วยกับราคาที่สำแดงก็จะอนุญาตให้นำรถออกจากท่าเรือไปได้ โดยในกรณีนี้ ทางประเทศอังกฤษได้ส่งข้อมูลรถยนต์ให้ดีเอสไอตรวจสอบ โดยได้ส่งราคารถยนต์หรูทั้ง 4 ยี่ห้อ 300 คัน ให้กรมศุลกากรตรวจสอบ จึงพบรถยนต์ 250 คัน เสียภาษีไม่ครบถ้วนเป็นเงินถึง 4,200 ล้านบาท โดยบางคันแจ้งราคาต่ำมากถึง 100% บางคัน 50% เพื่อที่จะเสียภาษีนำเข้าให้ถูกลง ส่วนในอนาคตจะมีอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอีเอสไอ โดยคาดว่าจะมีรถยนต์นำเข้าเสียภาษีไม่ถูกต้องนับหมื่นคัน”.