ลดราคาสินค้าขั้นต่ำ 10% "โชห่วย" ร่วมธงฟ้าประชารัฐหมื่นแห่ง

“พาณิชย์” ปลื้มร้านโชห่วยแห่ร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ หมื่นแห่งทั่วประเทศ รองรับใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เร่ง “คลัง” ติดตั้งเครื่องรูดบัตรให้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ขณะที่ผู้ผลิตส่งรายชื่อสินค้าที่จะขายในร้าน 150 รายการ ย้ำลดราคาขั้นต่ำ 10% จากปกติใน 3 กลุ่มสินค้า

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีร้านค้าปลีกดั้งเดิม (โชห่วย) สมัครเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐที่จะจำหน่ายสินค้าเพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยแล้วจำนวนหมื่นกว่าแห่ง โดยกระทรวงฯกำลังทยอยส่งรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการให้กับกระทรวงการคลัง เพื่อติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ให้ทันต่อการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ต.ค.นี้

โดยจำนวนร้านค้าที่สมัครเข้ามาผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้มีการคัดเลือก ซึ่งการดำเนินการระยะแรกต้องให้ครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศ หรือมีร้านค้าตำบลละ 1 แห่ง เพื่อรองรับการใช้บัตร ซึ่งหากครบทุกตำบลแล้ว กระทรวงฯจะยังเปิดรับสมัครต่อเนื่อง ไม่ได้ปิดกั้นผู้ที่จะมาเข้าร่วมเพิ่มเติม

ทั้งนี้ การที่มีร้านโชห่วยเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น เป็นผลจากการที่ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ออกพบปะเชิญชวนร้านค้าปลีกรายย่อย ในเครือข่ายร้านค้าชุมชน ร้านค้าสหกรณ์ กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน การเคหะ ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อ ผลักดันให้เข้าร่วมโครงการ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการติดตั้งเครื่องรูดบัตรฟรี การซื้อขายสินค้าให้ชำระเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ราชการออกให้ ซึ่งรัฐบาลจะชำระเงินค่าสินค้าแทนผู้ถือบัตร ให้แก่ร้านค้าเป็นรายวัน และจะโอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วัน

สำหรับชนิดสินค้าที่จะขายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ ขณะนี้มีผู้ผลิตสินค้าสมัครเข้าร่วมแล้วเกือบ 20 ราย และส่งรายชื่อสินค้าที่จะนำมาจำหน่าย 150 รายการ เพิ่มเติมจากเดิมที่จำหน่าย 48 รายการ โดยสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปของจำนวนสินค้าทั้งหมด และยอมรับว่า สินค้าที่ผู้ผลิตส่งรายชื่อเพิ่มเติมมา บางรายการอาจไม่ได้ลดราคาถึง 15-20% แต่ได้กำชับว่า ต้องเป็นสินค้าที่ราคาต่ำกว่าท้องตลาด และต้องลดราคาไม่น้อยกว่า 10% ขึ้นไป

“เรื่องรายการสินค้า ได้ย้ำในเรื่องของความหลากหลาย ทำให้การลดราคาสินค้าบางรายการอาจไม่ได้สูงถึง 15-20% แต่ก็ไม่ต่ำกว่า 10% โดยสินค้าจะเน้น 3 กลุ่ม คือ สินค้าจำเป็นต่อการ
ครองชีพ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก แชมพู กลุ่มเครื่องแบบนักเรียน และกลุ่มปัจจัยการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี เป็นต้น ขณะนี้มีการส่งรายชื่อสินค้าเข้ามาเรื่อยๆ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้”

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่ติดตั้งระบบเครื่องรูดบัตรและทดลองการจำหน่าย โดยคนที่ถือบัตรต้องซื้อสินค้าตามรายการที่กำหนด เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้นำบัตรไปซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น ซึ่งวิธีการตรวจสอบจะมีบาร์โค้ดของสินค้า หากจำหน่ายสินค้านอกเหนือจากบาร์โค้ดที่กำหนด ร้านค้าจะถูกถอดออกจากโครงการทันที เพราะถือว่าทำผิดเงื่อนไข

“รัฐบาลจะประเมินผลการดำเนินโครงการ ร้านธงฟ้าประชารัฐระยะแรก (เฟสแรก) ในช่วง 3 เดือนนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) ว่าประสบความสำเร็จหรือมีปัญหาอุปสรรคที่ต้องแก้ไขอย่างไร ส่วนระยะ 2 จะเพิ่มจำนวนร้านค้า รวมถึงชนิดสินค้าที่จะครอบคลุมไปถึงสินค้าของเอสเอ็มอี สินค้าโอทอป สินค้าชุมชน โดยวงเงินที่รัฐบาลให้ใช้ผ่านบัตรเพื่อซื้อสินค้าภายในร้านธงฟ้ามีมูลค่ารวม 38,000 ล้านบาท จะเป็นเม็ดเงินเดิมที่ผู้ถือบัตรที่ต้องซื้อสินค้าอยู่แล้ว แต่การใช้จ่ายบัตรช่วยทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากการซื้อสินค้าได้หลายรอบ โดยจะมีประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจากการใช้บัตรต่อไป”.