ทรัมป์เตรียม “แจกเงิน” ประชาชน 2,000 ดอลลาร์ฯ/คน ไม่เน้นผู้มีรายได้สูง สูตรนี้ต่างจากไทยแค่ไหน?

Economics

Global Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทรัมป์เตรียม “แจกเงิน” ประชาชน 2,000 ดอลลาร์ฯ/คน ไม่เน้นผู้มีรายได้สูง สูตรนี้ต่างจากไทยแค่ไหน?

Date Time: 10 พ.ย. 2568 17:30 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

ทรัมป์ประกาศแจกเงินให้ชาวอเมริกัน 2,000 ดอลลาร์ต่อคน โดยมีเงื่อนไขยกเว้นผู้มีรายได้สูง

  • มาตรการแจกเงินของทรัมป์เกิดขึ้นในช่วงที่ศาลสูงสุดพิจารณาคำสั่งเก็บภาษีนำเข้า
  • หากแจกเงินจริง คาดว่าจะใช้งบประมาณเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • นักวิเคราะห์กังวลว่ามาตรการนี้จะส่งผลให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
  • ไทยมีโครงการ 'คนละครึ่ง พลัส' มูลค่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ตั้งคำถามถึงความคุ้มค่า

Latest


ไทยอาจคุ้นกับการ “แจกเงิน” หลายรูปแบบ แต่ล่าสุดคนสหรัฐฯ ก็ตื่นตัวกับข่าวนี้เมื่อ (9 พ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีประกาศผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ส่วนตัวว่า จะมีการจ่ายให้ชาวสหรัฐฯอย่างน้อย 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/คน (ราว 64,000 บาท/คน) แต่ยกเว้นผู้ที่มีรายได้สูง

Thairath Money ชวนมองอีกมุมว่า มาตรการแจกเงินทั้ง ไทย-สหรัฐฯ ต่างกันแค่ไหน และเรื่องไหนที่น่ากังวล

กรณีล่าสุดที่ทรัมป์หันมาพูดถึงมาตรการแจกเงินในช่วงนี้สาเหตุเพราะศาลสูงสุดสหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่า คำสั่งเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตทางกฎหมายไหม โดยทรัมป์เปิดประเด็นนี้ว่า “คนที่ต่อต้านภาษีศุลกากรคือ ไม่ฉลาด! ตอนนี้พวกเราเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุด และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยแทบไม่มีเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนราคาตลาดหุ้นยังทำสถิติใหม่”

แต่แนวคิดนี้จะทำได้จริงไหม เงื่อนไข และขอบเขตของนโยบายนี้จะเป็นอย่างไร ทรัมป์ยังต้องฝ่าการอนุมัติจากรัฐสภาคองเกรสในปีนี้ซะก่อน แน่นอนว่าเม็ดเงินที่ต้องใช้ในมาตรการนี้อาจสูงลิ่ว (แม้จะมีเงินจากที่สหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรจากหลายประเทศมาแล้วก็อาจไม่พอ)

Erica York รองประธานฝ่ายนโยบายภาษีของ Tax Foundation โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเธอว่า ถ้าตัดเกณฑ์โดยยกเว้นผู้มีรายได้เกิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 3.2 ล้านบาท) จะมีผู้เข้าเกณฑ์ ราว 150 ล้านคน คิดเป็นค่าใช้จ่ายเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.7 ล้านล้านบาท) แต่รายได้จากภาษีศุลกากรที่เก็บมาเพิ่มอยู่ที่ 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)

ถ้าทรัมป์แจกเงินก้อนใหญ่นี้จริงๆ หลายฝ่ายคาดว่า ภาครัฐต้องแบกภาระหนัก ซึ่งจะทำให้แนวโน้มรายจ่ายของภาครัฐและหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อาจเพิ่มสูงขึ้น (จากที่ตอนนี้สูงลิ่วจนหลายฝ่ายกังวลมาตลอด) ในระยะยาวจะกระทบต่อผู้บริโภคที่ค่าสินค้าบริการอาจเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่พุ่งขึ้น

จากสหรัฐฯ มองย้อนกลับมาในไทยที่ทั่วประเทศกำลังใช้ “คนละครึ่ง พลัส” มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเม็ดเงินกว่า 20,000 ล้านบาท แม้ในระยะสั้นเศรษฐกิจจะหมุนเวียนขึ้น คนมีเงินคล่อง แต่นักเศรษฐศาสตร์ยังตั้งคำถามถึง “ความคุ้มค่า” ของมาตรการนี้ ว่าถ้าเงินเม็ดก้อนนี้นำไปทำอย่างอื่นที่ดีต่อไทยในระยะยาว เช่น โครงสร้างพื้นฐาน จะดีกว่าไหม?

มาตรการแจกเงิน ยังชวนเราให้นึกถึง เงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาลเพื่อไทยที่ตั้งเป้าจะใช้เงินหลักแสนล้านมาเปย์ให้ประชาชน แต่ก็ถึงตอนนี้ก็ “ปรับ เปลี่ยน” ตามรัฐบาลที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม

แน่นอนว่าการเมืองเป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้เกิดมาตรการแจกเงิน เพราะรัฐบาลภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่ต้องการจะ Quick Big Win เร่งด่วนในทุกเรื่อง มาตรการกระตุ้นระยะสั้นแบบนี้ยิ่งต้องมีอยู่แล้ว ส่วนทรัมป์ต้องพูดเรื่องแจกเงินเพื่อหาแนวร่วม และทำจุดยืนให้มั่นคง จึงต้องจับตามองว่านอกจากการแจกเงินแล้วรัฐบาลทั้งสองประเทศจะมีของใหม่ๆ ที่ต่างจากเดิมหรือไม่

หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ