“ภาษีทรัมป์” ไปต่อหรือพอแค่นี้? เปิดมุมมอง 3 นักวิเคราะห์หลังศาลสหรัฐฯ เริ่มไต่สวนต้นเดือน พ.ย.นี้

Economics

Global Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“ภาษีทรัมป์” ไปต่อหรือพอแค่นี้? เปิดมุมมอง 3 นักวิเคราะห์หลังศาลสหรัฐฯ เริ่มไต่สวนต้นเดือน พ.ย.นี้

Date Time: 7 พ.ย. 2568 15:37 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

ศาลสูงสุดสหรัฐฯ พิจารณาคดีภาษีนำเข้าของทรัมป์ ตั้งแต่ 5 พ.ย. 67

  • การตัดสินอาจใช้เวลานานถึงเดือนมิถุนายน 2569
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้ม "แบ่งรับแบ่งสู้"
  • หากศาลตัดสินไม่เป็นอำนาจ ปธน. สหรัฐฯ อาจต้องคืนภาษี
  • ไทยอาจได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและลบจากการเปลี่ยนแปลง

Latest


ตั้งแต่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทุกฝ่ายต่างจับตา ศาลสูงสุดสหรัฐฯ เปิดการไต่สวนคดี “ภาษีทรัมป์” ซึ่งเป็นการพิจารณาว่า คำสั่งเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้นเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตทางกฎหมายหรือไม่ คำถามสำคัญคือ ผลการตัดสินนี้จะออกมาเมื่อไร เพราะไม่ว่าผลจะออกมาทางไหน การค้าขายทั่วโลกก็อาจกระทบไปด้วย

Thairath Money พูดคุยกับ 3 นักวิเคราะห์ เพื่อเจาะลึกถึงแนวโน้มและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

คำถามแรก: ผลการตัดสินจะชัดเจนเมื่อไร

เริ่มกันที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การไต่สวนครั้งนี้ของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ผู้พิพากษาส่วนใหญ่ตั้งข้อสงสัยต่อการที่ทรัมป์ใช้อำนาจตามกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) ในการเก็บภาษีนำเข้าในวงกว้างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งมี 4 ภาษีหลักยังมีผลบังคับใช้ต่อไประหว่างรอคำตัดสินของศาล ได้แก่

1. ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่เรียกเก็บในอัตราภาษี 10-50% กับคู่ค้าของสหรัฐฯ

2. ภาษีเฟนทานิล ที่เรียกเก็บจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา

3. ภาษีลงโทษ (Punitive Tariff) ที่เรียกเก็บจากอินเดียและบราซิล

4. ภาษีสินค้าส่งผ่าน (Transshipment Tariff)

เมื่อถามว่าผลการไต่สวนจะชัดเจนเมื่อไร “ดร.ลลิตา เธียรประสิทธิ์” ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า แม้จะเริ่มไต่สวนกันต้นเดือนพฤศจิกายน 68 แต่ผลการตัดสินอาจยืดเยื้อ อย่างช้าสุดคือในเดือนมิถุนายนปี 69

ส่วน “บดินทร์ พุทธอินทร์” ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มองไปในทางเดียวกันว่า ผลการตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯ อาจกินเวลาและลากยาวไปจนถึงปี 2569 ในกรณีที่ทรัมป์ถูกตัดสินว่าใช้อำนาจในทางมิชอบ การเก็บภาษีตามกฎหมาย IEEPA ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จนอาจถูกระงับหรือยกเลิกนั้น เชื่อว่าทรัมป์ยังมีเส้นทางอื่นให้เล่นต่ออยู่ดี

“ถ้าถามว่ากรณีที่ศาลตัดสินว่ามาตรการทางภาษีเป็นไปในทางไม่ชอบ สหรัฐต้องคืนเงินไหม? ผมเชื่อว่าทรัมป์เองไม่ยอมเสียหน้าอยู่แล้วหากถูกศาลสั่งห้ามเก็บภาษี เขาอาจจะหันไปเล่นงานในมิติอื่นแทน ซึ่งจุดนั้นอาจสร้างความผันผวนใหม่ให้ตลาดได้ แต่อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เขาอาจจะเล่นได้ไม่โหดเท่ากับปีนี้ เพราะปีหน้าจะมีเรื่องของการเลือกตั้ง” บดินทร์กล่าว

แต่ยังมีอีกมุมมองที่น่าสนใจ จาก “ดร.อมรเทพ จาวะลา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ว่าผลการตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯ อาจออกมาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หรือเร็ว ๆ นี้ โดยแนวโน้มการตัดสินนั้นคาดว่าจะเป็นแบบ “แบ่งรับแบ่งสู้” โดยศาลจะไม่ได้ปฏิเสธอำนาจของประธานาธิบดีทั้งหมด เพียงแต่อาจจะผลักภาระให้ทรัมป์ต้องไปขอการรับรองจากรัฐสภาแทน ซึ่งอาจจะเป็นทางออกที่วุ่นวายน้อยที่สุดแล้ว

ภาษีทรัมป์เปลี่ยนกระทบไทยแค่ไหน เครื่องมืออื่นที่ทรัมป์ใช้ได้มีอะไรบ้าง?

ตอนนี้หลายฝ่ายคาดว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจถูกศาลตัดสินว่าใช้อำนาจในทางมิชอบ และภาษีทรัมป์ที่ประกาศมาตั้งแต่ต้นปีต้องยกเลิกไป จากสมมติฐานนี้ทาง ดร.ลลิตา มองว่า ในด้านบวก ไทยอาจได้รับอานิสงส์เมื่อ ภาษีตอบโต้ 19% (Reciprocal tariff) ถูกยกเลิกไป แต่ด้านลบหรือความเสี่ยงคือ ไทยยังต้องเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคา เพราะทุกประเทศจะถูกยกเลิกการเก็บภาษี เหมือนกัน เช่น จีนจากที่จะโดน 47% (สูงกว่าไทย) เป็นต้น

ด้าน ดร.อมรเทพ มองเป็น 2 กรณี สมมติฐานแรกหากศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินว่าไม่ใช่อำนาจประธานาธิบดี สหรัฐฯ อาจต้องคืนเงินภาษีที่จัดเก็บไปแล้วให้แก่ผู้ส่งออกในต่างประเทศ (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย) สิ่งที่จะตามมาก็คือประธานาธิบดีเองก็คงไม่ยอมแพ้ และยังมีไพ่ในมืออีกหลายแบบ เช่น ถ้า ย้อนกลับไปดู Trump 1.0 ที่ไม่ได้ใช้ Reciprocal tariff แต่ทรัมป์สามารถตอบโต้การขึ้นภาษีกับจีนผ่าน การขึ้นภาษีเหล็ก อลูมิเนียม และอื่นๆ ได้

ในเคสแรกนี้ผลกระทบต่อไทย คือความเสี่ยงต่อภาคการส่งออกที่ไม่ได้เติบโตขึ้น เพราะที่ผ่านมาสหรัฐฯ เร่งนำเข้าและสต็อกสินค้าไว้มากแล้ว

กรณีที่สอง หากศาลสูงสุดสหรัฐฯ บอกว่าเป็นอำนาจประธานาธิบดีที่ทำได้ จะกลายบรรทัดฐานใหม่ที่สะท้อนว่าทรัมป์มีอำนาจขึ้นภาษีเท่าไหร่ก็ได้ แล้วจะตอบโต้ใครก็ได้ แต่มองว่าศาลคงไม่ให้อำนาจขนาดนั้น

ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ทุกฝ่ายต่างต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งในระดับประเทศต้องเตรียมตัวเพื่อรับมือทุกกรณี ในภาคธุรกิจก็ต้องวางแผนเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลง

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ