
ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัวจากปัจจัยดอกเบี้ยสูงและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์“จีน” กลับกำลังขยับไปอีกขั้น สู่ยุคที่เรียกว่า “สามเศรษฐกิจใหม่ (Three New Economies)” หรือในภาษาจีนว่า 三新经济 ซึ่งกำลังกลายเป็น “เครื่องยนต์ใหม่” ของประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคใหม่
สํานักงานส่งเสริมการค้าของไทยในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ รายงานอ้างอิงข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ที่ระบุว่า เมื่อปี 2567 เศรษฐกิจใหม่ดังกล่าวของจีน มีมูลค่ากว่า 22.35 ล้านล้านหยวนขยายตัว 6.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ GDP ของประเทศโตเฉลี่ยเพียง ราว 5% หมายความว่า “เศรษฐกิจใหม่” กำลังโตเร็วกว่าทั้งระบบ และกำลังกลืนพื้นที่ของเศรษฐกิจแบบเก่าอย่างเงียบ ๆ
ในรายงานชุดเดียวกัน ยังอธิบายว่า แนวคิดนี้ไม่ใช่คำแฟนซีของรัฐบาลจีน แต่คือการจัดหมวดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจาก เทคโนโลยี, พฤติกรรมผู้บริโภค, และรูปแบบธุรกิจยุคดิจิทัลโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนอนาคตจีน ได้แก่
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการเติบโตของตัวเลข แต่คือ การเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบของจีน จากประเทศที่เคยผลิตสินค้าราคาถูกให้โลก กลายเป็นประเทศที่ผลิตนวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการที่มีมูลค่าสูง
ซึ่งนักวิจัยจีนชี้ว่า “สามเศรษฐกิจใหม่” ทำให้ระบบเศรษฐกิจของจีนยืดหยุ่นขึ้น ตอบสนองผู้บริโภคได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันในตลาดโลก นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ของจีนในการบรรลุ Carbon Neutrality และการพัฒนาเศรษฐกิจที่ “ยั่งยืน” ทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี
ทั้งนี้ เมื่อเศรษฐกิจจีนหมุนไปทางเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ถูกวิเคราะห์ต่อว่า หลังจากนี้ ห่วงโซ่การผลิตของโลกก็ต้องหมุนตาม ไม่ว่าจะเป็น ...
ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจใหม่ของจีนอาจเป็นได้ทั้ง“สัญญาณเตือน” และ “โอกาสทอง” ของไทยเช่นกัน สํานักงานส่งเสริมการค้าของไทยในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่า สำหรับความเสี่ยงที่ไทยต้องรู้ คือ …
ส่วนโอกาสที่ควรคว้าไว้ ได้แก่ ...
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการไทย เร่งพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรม จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในจีน และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในเมืองเศรษฐกิจหลักของจีน เพื่อสร้างการรับรู้ระยะยาว เพราะหากอีก 5 ปีข้างหน้า ถ้าเราไม่อยู่ในแพลตฟอร์มจีนเราอาจถูกทิ้งไว้ในโลกยุคดิจิทัลอย่างถาวร
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney