ปิดดีล 2 แสนล้านจาก UAE ทัวร์ตะวันออกกลางจบสวย ทรัมป์แลกชิป-AI กับแร่หายากและน้ำมัน

เดินทางต่อประเทศที่ 3 สำหรับทริปทัวร์ตะวันออกกลาง (Gulf States) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา โดยในครั้งนี้ได้เดินทางไปยังอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) พร้อมกับเข้าพบชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยัน ประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทำดีลข้อตกลงที่ทาง UAE จะมอบเงินลงทุนกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเนื้อหาของข้อตกลงส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่เทคโนโลยีล้ำยุคและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางดิจิทัลของภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย

ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า “ดีลเหล่านี้จะเพิ่มการลงทุนเข้าสู่สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ และเปิดตลาดสหรัฐฯ ให้กับสินค้าและบริการจาก UAE มากขึ้น”

การเยือนตะวันออกกลางครั้งนี้ถือเป็นช่วงสุดท้ายของทริป 3 ประเทศที่ทรัมป์เลือกเป็นจุดเริ่มต้นยุทธศาสตร์การลงทุนระดับโลก หลังเพิ่งกลับมาดำรงตำแหน่ง ทรัมป์ประกาศดีล 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับซาอุดีอาระเบีย และอีกกว่า 243,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับกาตาร์ก่อนหน้านี้ โดยการลงทุนกลายเป็นไฮไลต์ของการเดินทางครั้งนี้อย่างชัดเจน

เจาะรายละเอียดดีลเด่นกับ UAE

ในดีลมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับ UAE มีดีลสำคัญที่น่าจับตาหลายรายการ อาทิ

• Etihad Airways สายการบินแห่งชาติของ UAE ลงนามสั่งซื้อเครื่องบิน Boeing รุ่น 787 และ 777X รวม 28 ลำ พร้อมเครื่องยนต์จาก GE Aerospace รวมมูลค่า 14,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• ExxonMobil, Occidental Petroleum และ EOG Resources จับมือกับ ADNOC (Abu Dhabi National Oil Company) ขยายการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมมูลค่าถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• Emirates Global Aluminum เตรียมลงทุนโครงการโรงหลอมอะลูมิเนียมแห่งใหม่ในรัฐโอคลาโฮมา มูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• RTX Corp. จะร่วมมือกับ Emirates Global Aluminum และ Tawazun Council พัฒนาโครงการแร่กัลเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมแร่สำคัญของสหรัฐฯ

นอกจากเรื่องเครื่องบินและอุตสาหกรรมปิโตรเลียมแล้ว สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากในดีลเหล่านี้ คือการผลักดันเทคโนโลยี AI ให้กลายเป็นตัวเร่งเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศในอ่าวที่กำลังต้องการเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจน้ำมันสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยความร่วมมือจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น

• Qualcomm Inc. เตรียมตั้งศูนย์วิศวกรรมระดับโลกในอาบูดาบี เน้นพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Data Center

• G42 ยักษ์ใหญ่ AI แห่ง UAE เตรียมสร้างแคมปัส AI ขนาดใหญ่ ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ โดยจะมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ Data Center สำหรับ AI กำลังผลิตถึง 5 กิกะวัตต์

• Amazon Web Services, e& (อดีต Etisalat) และ UAE Cybersecurity Council จับมือยกระดับบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศ

ทั้งนี้ ทางฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า ขณะนี้มีการพิจารณาข้อตกลงที่จะเปิดทางให้ UAE สามารถนำเข้าชิป AI ขั้นสูงจาก Nvidia มากกว่า 1 ล้านชิ้น ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเองก็ได้ดีลนำเข้าชิปหลายหมื่นตัวจาก Nvidia และ AMD ไปแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ดีล AI ที่ถาโถมเข้ามา ทำให้เกิดแรงต้านภายในรัฐบาล โดยบางฝ่ายมองว่าข้อตกลงเหล่านี้อาจเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจในระยะยาว

ถึงอย่างไรก็ตาม ดีลในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากคำมั่นของ UAE ที่ให้ไว้กับทรัมป์ตั้งแต่มีนาคม 2025 ว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ มากถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐาน AI เซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน และภาคการผลิต

ที่มา: Bloomberg

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney