"ยวิษฐา กรินชัย" เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 1,000 บาท ก่อตั้งแบรนด์เครื่องประดับ Yvis สู่ยอดขาย100ล้าน

ยวิษฐา กรินชัย ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องประดับ Yvis (ยวิษ) เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 1,000 บาท ขายตุ้มหู สร้อย แหวนผ่านอินสตาแกรม (IG) และรับออเดอร์ลูกค้าทางไลน์ (LINE) เติบโตทีละเล็กทีละน้อยในเวลา 8 ปี ล่าสุดบริษัท ยวิษ สโตร์ จำกัดของเธอ สามารถปิดยอดขายปี 2568 ทะลุ 100 ล้านบาทเป็นครั้งแรก เข้าถึงลูกค้าครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ

“การลงทุนเปิดเคาน์เตอร์ในห้าง จำเป็นสำหรับแบรนด์เครื่องประดับ การมีหน้าร้านช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า ได้เห็นหยิบจับ ทดลองสวมใส่ ตอนนี้ Yvis มีเคาน์เตอร์ในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ไอคอนสยาม สยามสแควร์ โดยตั้งแต่ปีหน้า เราจะเริ่มบุกตลาดต่างจังหวัดด้วย”

Yvis (ยวิษ) มาจากชื่อจริงของคุณพริม-ยวิษฐา สะท้อนตัวตนของเธอที่เริ่มต้นธุรกิจเพียงลำพัง คุณพริมเกิดในครอบครัวที่คุณพ่อประกอบธุรกิจซื้อมาขายไป (เทรดดิ้ง) ส่วนคุณแม่เป็นข้าราชการ เธอมีพี่สาวที่เพิ่งเปิดตัวคอลเลกชันร่วมกันชื่อพราว-อรณิชา กรินชัย อินฟลูเอนเซอร์สายแฟชั่น อดีตนักร้องวง Olives

Yvis เริ่มต้นจากความชอบเครื่องประดับของคุณพริม ปัญหาที่เธอเจอคือเครื่องประดับที่สวย ถูกใจ มักมีราคาแพง เธอจึงแก้ปัญหาด้วยการเสาะหาแหล่งสินค้าใหม่ๆ คุณพริมซึ่งขณะนั้นศึกษาอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรม เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ของเธอจากตรงนี้ในปี 2561 เดินหาเครื่องประดับคุณภาพดี ในราคาย่อมเยาที่ตลาดค้าส่งสำเพ็ง ซื้อไว้ใส่เอง รวมทั้งเปิดขายผ่าน IG เผื่อมีคนสนใจ

“พริมเดินสำเพ็งจนรู้เกรดเครื่องประดับหมด มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย ซึ่งคุณภาพค่อนข้างดี นอกจากซื้อให้ตัวเอง พริมคิดว่าน่าจะมีคนแบบเราอยู่ไม่น้อย อยากได้เครื่องประดับสวยๆ คุณภาพค่อนข้างดี ในราคาเอื้อมถึง สิ่งนี้เป็นธุรกิจได้ พริมจึงโพสต์ขายผ่าน IG ใช้ชื่อแบรนด์ Yvis ตั้งแต่เริ่มต้น ซื้อตุ้มหูท็อปเกรดราคาหลักร้อยจากตลาดสำเพ็ง ขายต่อในราคานักศึกษาที่ 290 บาท”

เรียนจบคุณพริมเข้าทำงานกับบริษัทสตาร์ตอัพฟินเทคแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นเธอยังขายเครื่องประดับเป็นอาชีพเสริม แต่การซื้อมา-ขายไปทำกำไรได้น้อย แถมมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก

“ระหว่างนั้น พริมสังเกตว่าถ้าพริมขยันโพสต์รูป ลงภาพสินค้า ยอดซื้อจะมาทันที แต่ด้วยความที่ทำงานประจำด้วย มันเหนื่อย พริมมองว่าถ้าทำจริงจัง ธุรกิจน่าจะไปได้ จึงตัดสินใจออกจากงานหลังทำได้ 8 เดือน”

ออกจากงานประจำปุ๊บ คุณพริมเดินหน้าธุรกิจเต็มเหนี่ยว ก่อตั้งบริษัท ยวิษ สโตร์ จำกัด ในเดือน มิ.ย.2563 ทุนจดทะเบียน 200,000 บาท เป็นเงินที่งอกเงยมาจากเงิน 1,000 บาทที่ใช้เริ่มธุรกิจ มีพี่สาวคุณพราว ถือหุ้นร่วม 5% เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ยุติโมเดลซื้อมา-ขายไป หันมาดีไซน์เครื่องประดับเองและบินไปเมืองกวางโจว ประเทศจีนเพื่อหาโรงงานผลิต

คอลเลกชันแรกของพริมเป็นแบบเรียบๆ แต่มีดีเทลที่บ่งบอกว่าเราตั้งใจทำ คุณภาพสูง ตั้งแต่แป้นตุ้มหู และความโค้งมนของขอบวัสดุ ทำมาร์เกตติ้งมากขึ้น ไม่ได้โพสต์ขายคนเดียวเหมือนเดิม ส่งให้อินฟลูเอนเซอร์ใส่ พอเข้ามาทำจริงจังจากขายได้เดือนละหลักหมื่น ขยับเป็นหลักแสน ภายใน 6 เดือนแรกทำยอดขายเกือบ 10 ล้านบาท

จากนั้น Yvis ก็ค่อยๆ เติบโต ปี 2564 ทำยอดขาย 14 ล้าน ปี 2565 ที่ 23 ล้าน ปี 2566 ที่ 38 ล้าน ปี 2567 ที่ 58 ล้าน และปี 2568 น่าจะปิดที่ 100 ล้านบาทเป็นครั้งแรก

เคยคิด ทำ ลงทุนลำพังคนเดียว ปัจจุบันคุณพริมมีทีมงานที่แข็งแกร่ง ทำงานอย่างมีความสุข และมีหัวใจบริการ ทั้งสิ้น 40 คน รวมนักออกแบบ ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ขณะที่คุณพริมขยับขึ้นไปบริหารมากขึ้น แม้จะยังมีส่วนร่วมอยู่มากในงานออกแบบ โดยพยายามออกคอลเลกชันให้ได้เดือนละ 1-3 คอลเลกชัน เพื่อให้คนไม่ลืมและสนุกในการซื้อหาคอลเลกชันใหม่ๆ ในราคาเริ่มต้น 290 บาท ราคาเฉลี่ย 600 บาท และสูงสุดที่ 1,200 บาทต่อชิ้น

ในตลาดที่มีความคึกคักยิ่ง คุณพริมบอกว่า Yvis ไม่มีคู่แข่งโดยตรง แม้จะมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย เพราะทุกแบรนด์มีลายเซ็นที่ต่างกันออกไป สำหรับ Yvis คือความเรียบง่ายที่เก็บทุกดีเทลอย่างประณีต มีความหวานด้วยสีชมพูและม่วง ซึ่งเป็นสีหลัก

หากให้หาเหตุผลว่าทำไม Yvis จึงเติบโตได้ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา คุณพริมให้น้ำหนักที่ความจริงใจต่อลูกค้า Yvis จะพยายามพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเสมอ “เรารับฟังทุกข้อเสนอแนะ เดิมเราขายเฉพาะเครื่องประดับทองเหลือง เพราะใส่ดีเทลได้ในแบบของ Yvis แต่ไม่กันน้ำ พอลูกค้าบอกอยากได้เครื่องประดับสีเงินบ้าง เราจึงเริ่มทำเครื่องประดับสเตนเลส ซึ่งกันน้ำ แต่เป็นวัสดุแข็ง จึงใส่ดีเทลได้ไม่มาก พริมยังยึดมั่นเรื่องราคา เราเริ่มต้นจากการ ทำเครื่องประดับคุณภาพที่ราคาจับต้องได้ Yvis จะยังโฟกัสที่วัตถุประสงค์เดิม”

นับว่าโชคดีที่ช่วงหลังลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจแบรนด์ในประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง จนถึงเครื่องประดับ ทำให้สินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยเติบโตต่อเนื่อง เป็นโอกาสในการพัฒนา ยกระดับสินค้าให้เทียบเท่าระดับสากล

ส่วนเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากขยายตลาดออกต่างจังหวัดมากขึ้น คุณพริมยังเริ่มเปิดตัวสินค้าใหม่ ได้แก่ นาฬิกาและแว่นกันแดด หาช่องทางขายใหม่ๆ และการออกคอลเลกชันร่วมกับดารา คนดัง

“สำหรับ Yvis เราไม่มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้โตแบบก้าวกระโดด ซึ่งพริมชอบให้เป็นแบบนั้น เราจะเติบโตในไทยอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อน หลัง 5 ปี น่าจะมีแผนออกตลาดต่างประเทศบ้าง อยากให้นักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทย นึกถึง Yvis ในฐานะเครื่องประดับไทย”.

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม