“อนุพงศ์ คุตติกุล” จากความหลงใหลใน "สนีกเกอร์" สู่อาณาจักร์ CARNIVAL ไลฟ์สไตล์แบรนด์สตรีทแฟชั่น

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“อนุพงศ์ คุตติกุล” จากความหลงใหลใน "สนีกเกอร์" สู่อาณาจักร์ CARNIVAL ไลฟ์สไตล์แบรนด์สตรีทแฟชั่น

Date Time: 13 ธ.ค. 2568 04:20 น.

Summary

CARNIVAL เริ่มต้นจากร้านขายรองเท้าเล็กๆ ที่ใช้พื้นที่เพียง 9 ตารางเมตร เมื่อปี 2553 หรือ 15 ปีที่แล้ว ในตึกสยามกิจ ย่านสยามสแควร์ แหล่งรวมความทันสมัยของวัยรุ่นไทย มาสู่แบรนด์สไตล์สตรีทแฟชั่นของ “วัยรุ่นเมือง” ได้อย่างไร

Latest

LINEMAN ชี้เมนู ตำปูปลาร้า ฮิตทั่วไทย ครองแชมป์ยอดสั่งเดลิเวอรีปี 2568

หากพูดถึง CARNIVAL แบรนด์สตรีทแฟชั่นของ “วัยรุ่นเมือง” แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่มี DNA มีความเป็นตัวตนชัดเจน ที่เหล่าลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ ต่างรอคอยการออกคอลเลกชันใหม่ๆของแบรนด์ทุกปี โดยเฉพาะคอลเลกชัน limited edition ที่ CARNIVAL มักพาแบรนด์ออกไป Collaboration กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีสตอรีเรื่องราวความทรงจำ ทั้งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อออกสินค้า limited edition ที่สร้างความสนุก ความแปลกใหม่ ที่คาดไม่ถึง ซึ่งได้สร้างเสน่ห์และปลุกกระแสแบรนด์ CARNIVAL ได้ตลอดทั้งปีและทุกปี!!

CARNIVAL เริ่มต้นจากร้านขายรองเท้าเล็กๆ ที่ใช้พื้นที่เพียง 9 ตารางเมตร เมื่อปี 2553 หรือ 15 ปีที่แล้ว ในตึกสยามกิจ ย่านสยามสแควร์ แหล่งรวมความทันสมัยของวัยรุ่นไทย มาสู่แบรนด์สไตล์สตรีทแฟชั่นของ “วัยรุ่นเมือง” ได้อย่างไร...??

“คุณปิ๊น”...“อนุพงศ์ คุตติกุล” ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ CARNIVAL เล่าถึงที่มาว่า ด้วยความชอบแฟชั่น ชอบแต่งตัว ที่สำคัญเขาหลงใหลและรักการใส่รองเท้า “สนีกเกอร์” มากจนถึงขั้นสะสม พร้อมศึกษาสตอรีเรื่องเล่าหรือที่มาของแต่ละรุ่น โดยเฉพาะรุ่นหายาก ที่มีการผลิตจำนวนจำกัด ที่ไม่ค่อยมีขายในไทย แต่ต้องไปเสาะแสวงหาซื้อในต่างประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีร้านที่ขายสินค้าเหล่านี้ที่มีลักษณะเฉพาะ ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในช็อปปกติ!!

นอกจากนี้ เขายัง “รับหิ้ว” มาขายให้กับเหล่าผู้หลงใหลใน “สนีกเกอร์” ที่อยู่ในคอมมูนิตี้ หลังจากที่เห็นดีมานด์ความต้องการของคนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกัน จึงเป็นที่มาของร้าน CARNIVAL ที่ “คุณปิ๊น” ได้ลงขันลงหุ้นร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ด้วยเงินทุนเริ่มต้นก้อนแรก 5 แสนบาท เพื่อหารายได้เสริมนอกจากการเป็นพนักงานออฟฟิศ หลังเรียนจบด้าน E-Business จากอังกฤษ ในวัย 29 ปี และใฝ่ฝันอยากทำธุรกิจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“CARNIVAL” ในช่วงแรกจึงเป็นร้านขายสนีกเกอร์ ที่ขึ้นชื่อว่า “ของที่หาจากที่อื่นไม่ได้ แต่ที่นี่มี” ที่บรรดาผู้นำแฟชั่น ดารา ดีเจ ศิลปิน นักร้อง และคนทำงานที่มีกำลังซื้อและมีรสนิยมใกล้เคียงกันต่างมาเป็นลูกค้า สนีกเกอร์ที่เขาไปหาซื้อมาขายในราคาบวกกำไร ที่หามาได้เท่าไรก็ขายได้หมด!!


ด้วยความพิเศษและความไม่ธรรมดาของคอมมูนิตี้นี้...ส่งผลให้แบรนด์รองเท้าชื่อดังเข้ามาเจรจาติดต่อให้ “CARNIVAL” เป็นตัวแทนจำหน่ายสนีกเกอร์รุ่นพิเศษ limited edition ที่ไม่มีวางขายใน shop หลักของแบรนด์อย่างเป็นทางการ เริ่มจาก Converse ขยายสู่แบรนด์ใหญ่ยักษ์ระดับโลก ทั้ง Nike, Adidas ถึงปัจจุบัน “CARNIVAL” เป็นตัวแทนจำหน่วยสนีกเกอร์รุ่นพิเศษของแบรนด์รองเท้าชื่อดังทั่วโลกกว่า 30 แบรนด์

จาก 9 ตารางเมตร สู่ Shop ใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ และอีก 5 สาขา ในห้างใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ จากปรากฏการณ์ภาพวัยรุ่นและคนวัยทำงาน ต่อคิวจับสลากเพื่อลุ้นสิทธิได้ซื้อรองเท้า “สนีกเกอร์” รุ่นลิมิเต็ดแบรนด์ ดังของโลก สู่การจัดคิวด้วยระบบดิจิทัล “15 ปีก่อน ที่ผู้คนยังไม่อินกับการใส่สนีกเกอร์เหมือนปัจจุบันที่ผู้คนทุกเพศทุกวัยนิยมใส่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ทั้งใส่เที่ยวใส่ทำงาน ซึ่งเป็นเทรนด์โลก และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดรองเท้าสนีกเกอร์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว” เขาเล่า


แต่เขาไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น!! ด้วยความเป็นตัวตน ไลฟ์สไตล์ ความอาร์ต ความชอบแต่งตัว สายแฟชั่นสตรีทแวร์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เขาตัดสินใจทำแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับในชื่อ CARNIVAL ที่มี Brand Identity ที่ชัดเจนและมีกลยุทธ์ธุรกิจที่เฉียบคมไม่แพ้แบรนด์แฟชั่นระดับโลก ซึ่งปรากฏว่าเพียงออกวางขายคอลเลกชันแรกก็ได้การตอบรับอย่างล้นหลาม

โดยกลยุทธ์ธุรกิจที่โดดเด่นของ CARNIVAL คือการออกคอลเลกชันที่ไปร่วมมือหรือ Collaboration กับแบรนด์อื่น ที่ทำให้แต่ละคอลเลกชันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างประสบการณ์และกระแสฮือฮาให้วงการแฟชั่นสตรีทแวร์ไทยได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถ Sold out ขายหมดเกลี้ยงแทบทุกคอลเลกชันในเวลาอันรวดเร็ว เพราะผลิตในปริมาณจำกัด Limited edition หมดแล้วหมดเลย ไม่มีทำเพิ่มทำซ้ำ แม้จะมีความต้องการมากแค่ไหน!!

 จึงสร้างปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้นคือการตามหาของหายาก ที่ทำให้สินค้าถูกนำไปขายต่อในราคารีเซลที่ถูก up price ขึ้นมาในราคาสูงจากราคาเริ่มต้นมากกว่า 150-200% เช่น CARNIVAL® x Guns N’ Roses Collection และ UMBRO x CARNIVAL® Collection และ CARNIVAL® x TOP SECRET COLLECTION

“คุณปิ๊น” เล่าว่า เรา Collaboration กับแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลกรวมๆแล้ว 200 กว่าแบรนด์ จากหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น TOY Story, การ์ตูน One piece, Dragon Ball ไก่ทอด KFC, รถยนต์ HONDA, H&M, ADIDAS, NIKE, ASIC, ทีมฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิก x อาดิดาส x CARNIVAL, แบรนด์ไทย เช่น ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์, คุกกี้ อิมพีเรียล, เตาแก๊สลัคกี้เฟลม, เสื้อยืดห่านคู่, Bar B Q Plaza เป็นต้น ล่าสุดเขาได้ขยายฐานลูกค้าไปยังเฉพาะกลุ่มจากการทำชุดกีฬา CARNIVAL RUN และ CARNIVAL GOLF


สำหรับกลุ่มลูกค้าของ CARNIVAL ปัจจุบันกลุ่มใหญ่จะเป็นคนวัย 30-40 ปี มีรายได้ที่มั่นคง มีกำลังซื้อ ชอบแฟชั่น ราคาสินค้าในคอลเลกชันปกติ เช่น เสื้อยืด 1,200-1,700 บาท แจ็กเกต 2,000-3,000 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย 90% อีก 10% เป็นต่างชาติ ขายผ่านออนไลน์ 30-40% และหน้าร้าน 60-70% สำหรับรายได้แบ่งเป็นสนีกเกอร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ต่างๆ 50% อีก 50% เป็นสินค้าแบรนด์ CARNIVAL เอง โดยรายได้ปีแรกปี 2553 เริ่มต้นจาก 10 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องมาทุกปี ล่าสุดปี 2567 รายได้ปิดปีที่ 500 ล้านบาท ขณะที่เขายังเห็นโอกาสการเติบโตของแบรนด์ CARNIVAL ที่ยังไปได้อย่างดี

“ผมเน้นทำงานสนุก ผมใส่สุด ทุ่มสุดตัวทุกงาน ทำตาม PASSION ที่เริ่มจากความชอบก่อน แล้วถ่ายทอดความเชื่อของเรา ทุกสินค้าทุกคอลเลกชันเรามี STORY เรื่องเล่าถึงที่มา ความผูกพัน ความประทับใจหรือแรงบันดาลใจ หลายแบรนด์ที่เราไป Collaboration ด้วย หลายครั้งเป็นสิ่งที่ผู้คนคาดไม่ถึง สร้างความสนุกและตื่นเต้นทุกครั้ง ทั้งกับลูกค้าและเราเอง

วันนี้ผมไม่ได้นำยอดขายมาเป็นตัวตั้ง แต่ผมเน้นการสร้างแบรนด์ CARNIVAL ให้แข็งแกร่งและอยู่ได้อย่างยั่งยืนเป็นหลัก แฟนพันธุ์แท้ของ CARNIVAL จะได้สนุกตื่นเต้นกับคอลเลกชันที่จะออกมา เราใช้ Passion นำทางธุรกิจ แม้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เมื่อคนสัมผัสได้ว่าเราทำสิ่งนี้เพราะความชอบจริงๆ เราคือคนที่ทำจริง ออกแบบเองจริง ใส่จริง คนก็จะเข้าใจ รักและให้คุณค่ากับสินค้าของแบรนด์ที่เราสร้างขึ้นมา” เขากล่าวทิ้งท้าย.

เลดี้แจน


คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ