HOKA แบรนด์กีฬาฝรั่งเศส อายุ 16 ปีแต่ครองใจนักวิ่งทั่วโลก ปักหมุด Strategic Hub เปิดสาขา 9 ในไทย

หนึ่งในเทรนด์สำหรับสายออกกำลังหรือสายแอคทีฟคงหนีไม่พ้นการวิ่ง ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง เริ่มต้นง่าย และทำได้ในหลายพื้นที่ ทำให้การวิ่งมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มีแค่กลุ่ม Performance ที่เน้นสถิติ แต่ยังมีกลุ่ม Socializing กลุ่ม City Run และ Running Club ที่เน้นการพบปะสังสรรค์เข้าสังคม รวมถึงกลุ่มวิ่งเทรลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ตามข้อมูลของ The Guardian ระบุว่า ความนิยมในการวิ่งนั้น ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ Hugh Brasher ผู้จัดการอีเวนต์ของงาน London Marathon กล่าวว่า กระแสวิ่งบูมครั้งแรกในช่วงปี 1970-1980 แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ให้ความสนใจกับการวิ่งนั้นจะเป็นนักกีฬาผู้ชายมากกว่า จนต่อมาเมื่อ Paula Radcliffe ทำสถิติมาราธอนระดับโลกได้ในปี 2003 กระแสวิ่งก็กลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลากหลายมากขึ้นตรงที่ผู้เข้าร่วมมีเป็นผู้หญิงมากขึ้น

และในปัจจุบันนี้ กระแสวิ่งที่เริ่มกลับมาบูมอีกครั้งเมื่อช่วงโควิด-19 ที่คนหันมารักสุขภาพมากขึ้น บวกกับกระแสโซเชียล ทั้ง TikTok และ Reels ที่ทำให้การวิ่งกลายเป็นเรื่องของแฟชั่น จนทำให้คนที่เข้าร่วมวงการวิ่งนั้นมีอายุน้อยลง และเป็นหญิงชายผสมกันแทบจะ 50/50 แล้ว

จากความนิยมเหล่านี้ทำให้เหล่าแบรนด์กีฬาทั้งหลายหันมาออกโปรดักต์ที่จะตอบโจทย์กับนักวิ่งที่หลากหลายขึ้น ซึ่งรองเท้าวิ่งก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นักวิ่งทุกคนต่างเลือกสรรให้เหมาะสมกับร่างกายพร้อมกับทำให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัว ซึ่งหนึ่งแบรนด์ที่ก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือ “HOKA” แบรนด์รองเท้าวิ่งจากฝรั่งเศสที่ออกแบบมาเพื่อนักวิ่งโดยเฉพาะ

เอกลักษณ์ HOKA ต้นกำเนิด “Fly Human Fly”

จุดเริ่มต้นของ HOKA ต้องย้อนไปในปี 2009 เมื่อ Nicolas Mermoud และ Jean-Luc Diard สองนักวิ่งเทรลชาวฝรั่งเศส ต้องการจะมีรองเท้าวิ่งที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี เพื่อที่จะช่วยให้การวิ่งขึ้นลงเขาง่ายขึ้น และต้องไม่ลดสมรรถนะในการวิ่งลง

รองเท้าวิ่งในช่วงนั้นจะเน้นไปที่ลักษณะ Minimalist แบรนด์ใหญ่ ๆ จะออกแบบรองเท้ามาให้ดูเรียบง่าย บาง เพื่อให้มีความเบา แต่ทาง HOKA กลับสวนกระแสเปิดตัวมาด้วยความ Maximalist มีพื้นเป็นโฟมหนาแบบมีเอกลักษณ์ เพื่อรองรับแรงกระแทก แต่ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาเหมาะแก่การวิ่ง

ชื่อเต็มของแบรนด์ คือ “HOKA One One” อ่านว่า โฮก้า โอเน่ โอเน่ มีที่มาจากภาษาเมารี แปลได้ว่า บินเหนือพื้นดิน ตามแนวคิดของสองผู้ก่อตั้งที่ต้องการจะให้การวิ่งลงจากเขาเป็นเหมือนการบินลงมา และก็เป็นที่มาให้แบรนด์มีสโลแกนว่า “Fly Human Fly” 

ความโดดเด่นของ HOKA คือการมีพื้นรองเท้าเป็นโฟมที่หนา นุ่ม เบา ซึ่งมีความหนามากถึง 29 มม. (หนากว่ารองเท้าวิ่งในตลาดทั่วไปถึง 19 มม.) พร้อมกับออกแบบให้รองเท้ามีสีสันฉูดฉาด โดดเด่นด้วยลวดลายที่ใครผ่านตาเป็นต้องหยุดมอง ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้แตกต่างจากรองเท้าของเจ้าอื่น ๆ ในตลาดอย่างมากทำให้ HOKA กลายเป็นที่ถูกใจของลูกค้าขึ้นมาทันที

ต่อมาก็เริ่มขยับขยายให้การออกแบบรองเท้าวิ่งที่นอกจากจะรองรับร่างกายนักวิ่งแล้ว ยังเพิ่มไลน์มาออกแบบสินค้าที่เหมาะกับทั้งนักวิ่งมือโปร นักวิ่งมือใหม่ นักวิ่งมาราธอน นักวิ่งเทรล ตลอดจนรองเท้าตอบรับการเดินในชีวิตประจำวัน และเมื่อปี 2013 หลังจาก Deckers แบรนด์รองเท้าสัญชาติอเมริกันเข้าซื้อกิจการ ทำให้ปัจจุบัน HOKA เป็นผู้นำทั้งสาย Performance และกำลังขยายสู่โลกแฟชั่นและไลฟ์สไตล์

พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท REV Edition จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่าย HOKA กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เริ่มจากคาแรกเตอร์ของสินค้าที่มีความ Maximalist แต่กลับมีความนุ่มและสบายในการสวมใส่ ทำให้เข้าถึงคนได้ง่าย ประกอบกับแบรนด์ไม่หยุดนิ่ง มีการพัฒนาดีไซน์และสีสันที่หลากหลาย ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสวมใส่ได้ทั้งการวิ่งจริงจังและใส่ในชีวิตประจำวัน

โจเอล ลิม Head of Brand HOKA South East Asia อธิบายถึงทิศทางของแบรนด์ในปี 2026 ว่า แบรนด์จะยังคงมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่าง DNA ของการเป็นรองเท้า Performance และการขยายสู่ตลาดไลฟ์สไตล์ แต่หัวใจสำคัญคือการ Stay Authentic หรือรักษาความเป็นตัวตนที่แท้จริงเอาไว้

“HOKA ไม่ได้พยายามจะเป็นแบรนด์แฟชั่นตามกระแส แต่ยึดมั่นใน DNA ของตัวเอง คือการทำรองเท้าวิ่งที่ใส่สบายที่สุด เมื่อนำความสบายนั้นมาบวกกับดีไซน์ที่พัฒนามาจากรองเท้าวิ่งเทรลของจริง ทำให้สินค้านั้นกลายเป็น Lifestyle Item ได้โดยธรรมชาติ โดยที่ผู้ใส่ยังคงได้รับความสบายสูงสุด” พรศักดิ์ กล่าว

รายได้ของ HOKA ตามผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2026 อยู่ที่ 653 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า โดยบริษัทแม่ Deckers รายงานว่า ทั้งแบรนด์ HOKA และ Ugg สามารถทำให้รายได้รวมจากต่างประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 50% โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

HOKA ในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทย แบรนด์ HOKA มีผู้นำเข้าและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ คือ REV Edition โดยได้ร่วมมือกับ CRC Sports ของกลุ่มเซ็นทรัล ทำให้แบรนด์สามารถขยายร้านสาขาและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Rev Edition ได้เปิดร้าน HOKA แห่งแรกของโลกที่เมืองไทย จนปัจจุบันสามารถขยายไปสู่ Shop-in-Shop หลักร้อยจุด และร้าน Stand-alone อีก 9 สาขา โดยมีสาขา EmQuartier เป็น Concept Store ที่ผสานความเป็น Performance เข้ากับไลฟ์สไตล์มากขึ้น นำเสนอสินค้าที่เหมาะกับทั้งนักกีฬาและการใช้ชีวิต

นอกจากนี้ ยังมีสาขา Siam Center เป็น Hybrid Flagship Store สาขาที่ใหญ่ที่สุดในไทย และเช่นกันเป็นการผสานสินค้าที่หลากหลายของ HOKA พร้อมกับนำเสนอหน้าร้านได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการจะช้อปสินค้าของ HOKA และในช่วงสิ้นปีนี้ HOKA จะเปิดตัวสาขาที่ 9 ณ Central Ladprao อีกด้วย

โจเอล ลิม กล่าวว่า ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ นับว่าเป็น Strategic Hub ของแบรนด์ เพราะคนไทยปรับตัวรับวัฒนธรรมและเทรนด์ใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว จนกลายเป็น Center of Influence ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่สูงในไทยยังกระตุ้นให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องนำเสนอคอนเซปต์ร้านที่ดีที่สุดมาไว้ที่นี่ ทำให้มาตรฐานของตลาดไทยสูงขึ้น

และนอกจากเรื่องของสินค้าแล้ว HOKA ยังสนับสนุนคอมมูนิตี้ของนักวิ่ง ผ่านการจัดการอีเวนต์ต่าง ๆ อย่างล่าสุดในประเทศไทย ได้มีการจัด HOKA Chiang Mai Thailand by UTMB เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเสมือนโอลิมปิกของวงการวิ่งเทรล มีผู้เข้าร่วมเกือบ 10,000 คนจากทั่วโลก เปลี่ยนเชียงใหม่ให้เป็นทั้ง Travel Destination และ Trail Destination สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล

ทั้งนี้ ในปี 2026 แบรนด์จะมีการขยายสาขาและปรับโฉมร้านใหม่ ๆ รวมถึงมีกิจกรรมอีกมากมายออกมาเพื่อคอมมูนิตี้นักวิ่งต่อเนื่อง

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney