กาแฟพันธุ์ไทยรุกคืบ บุกตลาดก๋วยเตี๋ยวเรือ แตกไลน์สตรีทฟู้ดเจาะดีมานด์โต

นายอนันต์ รัตนมั่นคง รองประธานกรรมการ กลุ่มงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า กาแฟพันธุ์ไทยเดินหน้าต่อยอดกลยุทธ์ Brand Extension ด้วยการเปิดบริษัท ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยรุกตลาดสตรีทฟู้ด ด้วยแนวคิด “ครบจบในที่เดียว” ผสานประสบการณ์ร้านกาแฟ–อาหารในโมเดลเดียว ชูจุดขาย Creative Thai Taste คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น เอ็นหมูหาดใหญ่ ส่งตรงจากสงขลา ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่มองหาคุณภาพ ความคุ้มค่า และเมนูที่มีเอกลักษณ์

สาเหตุที่รุกตลาดก๋วยเตี๋ยวเรือเพราะเป็นอาหารจานเดียวที่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทยมายาวนาน เป็นเมนูที่ได้รับความนิยม เข้าถึงง่าย สามารถทานได้ทุกวัน ประกอบกับพันธุ์ไทยมีฝ่าย Research & Development ที่แข็งแรง สามารถคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเมนูใหม่ๆ ที่มีรสชาติแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์

นอกจากนี้หัวใจสำคัญคือการพิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม หมู-เนื้อหมักนุ่มฉ่ำ เครื่องปรุงสูตรเด็ด พริกคั่วสูตรเฉพาะ กากหมูเจียวใหม่ทุกวัน และ Signature ที่มีที่นี่ที่เดียวคือ เอ็นหมูหาดใหญ่คัดพิเศษ ส่งตรงจากสงขลา เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส Creative Thai Taste ของดีของเด็ดที่หาทานได้ยาก เพราะเราอยากส่งต่อรสชาติท้องถิ่นทั่วไทย ให้ลูกค้าได้รับประทานกันเหมือนคนในครอบครัว

สำหรับแผนขยายสาขาเชิงรุก ตั้งเป้าเปิด 50 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลภายในปี 2569 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แบ่งเป็นสาขาในและนอกปั๊มอย่างละ 50% รับแรงหนุนตลาดสตรีทฟู้ด ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในปี 2568 จะอยู่ที่ 646,000 ล้านบาท เติบโต 2.8% จากปี 2567 โดยเฉพาะตลาดร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่มีหน้าร้าน คาดว่าจะเติบโต 4.7% จากปี 2567 หรือมีมูลค่า 261,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดร้านอาหารโดยรวมประมาณ 562,000 ล้านบาท

นอกจากนี้พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า ความใส่ใจด้านสุขภาพ ความแปลกใหม่ ประสบการณ์ที่ได้รับ และราคาที่สมเหตุสมผล พันธุ์ไทยจึงมองเห็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

โดยปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทยเปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ สาขารังสิตคลอง 3 และสาขาคลองหลวง 8 จ.ปทุมธานี โดยจะเปิดให้บริการสาขาคลองหลวง 3 ในปลายปีนี้ และเตรียมเปิดเพิ่ม พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เชื่อมฐานลูกค้าระหว่างสองแบรนด์ผ่าน Max Card และแคมเปญ Co-promotion เพื่อสร้าง Brand Loyalty และผลักดันยอดขายทั้งเครือ ขณะเดียวกันยังจัดโปรโมชันเปิดสาขาใหม่เพื่อเร่งสร้างการรับรู้และขยายฐานผู้บริโภคในทำเลศักยภาพ