เบื้องหลังขายโรงแรมพันล้าน กลยุทธ์ธุรกิจแบบ “ ออริจิ้น โฮเทล” ปั้นพอร์ตสู่อาณาจักร 5.8 หมื่นล้าน

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เบื้องหลังขายโรงแรมพันล้าน กลยุทธ์ธุรกิจแบบ “ ออริจิ้น โฮเทล” ปั้นพอร์ตสู่อาณาจักร 5.8 หมื่นล้าน

Date Time: 9 ธ.ค. 2568 16:36 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

อะไรคือเบื้องหลัง? เจาะดีลขายโรงแรมล่าสุด กลยุทธ์ปรับพอร์ตเชิงรุกของ “ออริจิ้น โฮเทล” เดินสู่การปั้นพอร์ตอาณาจักรโรงแรม 5.8 หมื่นล้าน รวม 33 โครงการ ทั่วประเทศ ภายในปี 2573



Latest


การเคลื่อนไหวของ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ที่ประกาศขายโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ และ อินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท อาจทำให้หลายฝ่ายตีความว่า ORI กำลังลดขนาดธุรกิจ หรือเผชิญภาวะซบเซา แต่สำหรับผู้บริหาร นี่คือ การเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่วางแผนไว้แต่ต้น ซึ่งเป็นหัวใจของโมเดลธุรกิจ Asset Recycling ที่สร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์


Thairath Money ร่วมสัมภาษณ์พิเศษ “ชาญชัย พันธุ์โสภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น Flagship Company ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality & Tourism) ซึ่งได้อธิบายถึงการขายทรัพย์สินเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Build – Operate – Exit – Re Investment ที่วางแผนไว้ตั้งแต่ต้น

"ธุรกิจอสังหาฯ มันไดนามิกมากขึ้น ทุกอย่างไม่ยั่งยืน เราต้องทันต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ มิติ การ Exit (การขายออก) ทำอย่างไรให้ได้กำไร ก็ต้องคิด"

การขายโรงแรม 2 แห่งดังกล่าว ทำให้บริษัทได้รับกระแสเงินสดสุทธิกลับมารวมกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่แค่เงินก้อน แต่เป็น Asset Recycling หรือการนำเงินทุนที่ได้มาหมุนเวียนไปลงทุนในโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแบบคู่ขนาน นี่คือการสื่อสารที่ชัดเจนว่า การขายทำกำไรเป็นโมเดลธุรกิจ ไม่ใช่สัญญาณของธุรกิจที่แย่


แผน 5 ปี ทุ่ม 1.5 หมื่นล้าน/ปี สู่พอร์ต Recurring Income 5.8 หมื่นล้าน

การก่อตั้ง ORIGIN HOTEL และการผลักดันให้เป็นบริษัทเรือธงในเครือ ORI สื่อถึงความตั้งใจจริงที่จะลดการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ซึ่งมีความผันผวนสูงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ (Non-Cyclical Income) และหันมาสร้าง รายได้ประจำและต่อเนื่อง (Stable Cash Flow)

โดยผู้บริหารเปิดเผยว่า ORIGIN HOTEL ได้วางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ภายในปี 2573) อย่างชัดเจน โดยตั้งเป้าหมาย:

  • ขยายพอร์ตโฟลิโอสะสมเป็น 33 โครงการ (ประกอบด้วย โรงแรม 29 โครงการ และพื้นที่เชิงพาณิชย์/อาคารสำนักงาน 4 โครงการ)
  • มีมูลค่ารวมของพอร์ตกว่า 58,000 ล้านบาท
  • ใช้ งบลงทุนเฉลี่ย 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อสร้างการเติบโตของสินทรัพย์
  • ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีสัดส่วนน้อยกว่าธุรกิจบ้าน - คอนโดฯ ขึ้นมาเป็น 25-30% แล้ว และมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) เมื่อมีโรงแรมในมือราว 15-20 แห่ง และตามความพร้อมของสภาพตลาด ณ เวลานั้น


ขณะกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนเป้าหมายนี้คือการเป็น Open Platform ซึ่งหมายถึงการเปิดรับพันธมิตร 3 กลุ่ม ทั้งนักพัฒนา (Development Partners), เจ้าของที่ดิน (Landlord Partners), และนักลงทุน (Investment Partners) เพื่อเร่งการเติบโตบนต้นทุนที่เหมาะสม

“พื้นที่ใจกลางเมืองหลายแห่ง ที่รอการพัฒนา ขาดคน ขาดเงินลงทุน เป็นโอกาสในการเข้าไปทำโมเดลธุรกิจของเรา”

ORIGIN HOTEL ปัจจุบันมีโรงแรมอะไรบ้าง?

ปัจจุบัน ORIGIN HOTEL เป็นผู้นำในตลาดโรงแรมและ Hospitality โดยเฉพาะในโซน EEC และหัวเมืองท่องเที่ยว โดยมีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว รวม 9 แห่ง (2,306 ห้องพัก) มูลค่ากว่า 13,370 ล้านบาท ตัวอย่างโรงแรมที่บริหารอยู่ ได้แก่ 

  • แบรนด์ระดับสากล เช่น โรงแรม สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง, โรงแรม ฮอลิเดย์อินน์ เอกเพรส ระยอง
  • โรงแรมในหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น โรงแรมไอบิส หัวหิน, ภูเก็ต, กระบี่ และ เวลล์เนส สเตย์ แอนด์ โฮเทล สุขุมวิท 107 
  • (หมายเหตุ: อินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท และ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ ถูกขายออกตามกลยุทธ์ Exit Strategy ไปแล้ว)

ผนึกกำลังระดับโลก และนัยยะของ "ซอฟต์แวร์" ในธุรกิจโรงแรม

ผู้บริหาร ยังชี้ว่า หัวใจของการขยับตัวครั้งล่าสุดคือการลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่กับ Marriott International ซึ่งเป็นหนึ่งในเชนโรงแรมระดับโลกที่มีฐานสมาชิก Marriott Bonvoy กว่า 260 ล้านคน การจับมือนี้เป็นการนำ แม่เหล็กระดับสากล มาสร้างชื่อและมาตรฐานการบริการให้กับโรงแรมใหม่ 3 แห่ง ที่กำลังจะพัฒนาร่วมกัน มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท ได้แก่

  1. Bangkok Marriott Sukhumvit Onnut
  2. Courtyard by Marriott Bangkok Sukhumvit Onnut
  3. Moxy Phuket Chaofah

นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโรงแรมภายใต้แบรนด์ Marriott อีก 4 โลเคชั่นในอนาคต (กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ชลบุรี, เชียงใหม่) มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท

“ชาญชัย” เน้นย้ำว่า หลักการพัฒนาอสังหาฯ โรงแรม และ ค้าปลีก มันต่างกันที่ซอฟต์แวร์ เพราะธุรกิจโรงแรมมีความซับซ้อนสูง ต้องใส่ "ซอฟต์แวร์" ในแง่ของการบริหารจัดการรายได้ (Revenue Management), การกำหนดราคาแบบไดนามิก (Dynamic Pricing), และการบริหารจัดการบุคลากร การดึงเชนระดับโลกเข้ามาจึงไม่ใช่แค่เรื่องแบรนด์ แต่เป็นการนำ Global Expertise และ ช่องทางการจัดจำหน่าย ที่แข็งแกร่งที่สุดมาใช้ เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าพักและรายได้รวมให้สูงสุด

บทเรียนธุรกิจในยุคที่ “ต้องว่ายน้ำให้เร็ว” 

การเคลื่อนไหวของ ORIGIN HOTEL เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับคนทำธุรกิจในยุคนี้ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น ...

  • ทุกธุรกิจต้องมี Exit Strategy อย่ามองแค่การลงทุน แต่ต้องมองถึง กระบวนการทำกำไรจากการขายทรัพย์สิน หรือ Asset Monetization ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มโครงการ
  • ลดการพึ่งพิงรายได้วัฏจักร เพราะธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) คือเกราะป้องกันความเสี่ยงและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
  • Synergy คือพลังขับเคลื่อน เพราะการเป็น Open Platform และการใช้จุดแข็งของพันธมิตรระดับโลก ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องแบกรับภาระทางการเงินทั้งหมดเอง
  • ซอฟต์แวร์คือความได้เปรียบ เพราะความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "ฮาร์ดแวร์" (อาคาร) เท่านั้น แต่ "ซอฟต์แวร์" (การบริหารจัดการ การตลาด และเทคโนโลยี) ต่างหาก คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างและทำกำไรในตลาดโรงแรม

ทั้งนี้ ในยุคที่ภูมิทัศน์ธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (ไดนามิกสูง) การปรับตัวให้เร็วอย่างมีกลยุทธ์ และการสร้างเสาหลักทางการเงินที่มั่นคง จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารของ ORIGIN กำลังสื่อสารและเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ควรมองข้าม

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https:// www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ