“วัตสัน” ชี้เทรนด์สุขภาพมาแรง บิวตี้ตามติด เกมแข่งขันปีหน้าเดือด

นางสาวนวลพรรณ ชัยนาม กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลผู้บริโภคปี 2568 ที่วัตสันได้ข้อมูลจาก Customer Trend Survey จากสมาชิกวัตสันกว่า 4,000 คน พบการเปลี่ยนแปลง “จากการใช้จ่ายเพื่อแก้ปัญหา สู่การลงทุนเพื่อการป้องกัน” พบความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนว่าเรื่อง “สุขภาพ” ไม่ได้เป็นกระแสอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นความสำคัญลำดับแรกในชีวิตประจำวันของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้น้ำหนักกับสุขภาพมากกว่าความงามอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งสะท้อนภาพของประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยในปี 2028 จากประชากรที่มีอายุ 60 ปีมากกว่า 20% ด้วย

หนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจคือสัดส่วนผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพเพิ่มขึ้นจากระดับ 15% ในอดีตไปสู่กว่า 70% ในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของวัตสันที่ระบุกว่า 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญกับสุขภาพมากกว่าความงาม นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมที่สะท้อนภาพว่า “สุขภาพดีระยะยาว” คือเป้าหมายของผู้บริโภคในยุคการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ (Longevity)

อีกเทรนด์ที่โดดเด่นคือการจัดงบประมาณดูแลสุขภาพอย่างเป็นระบบ ผู้บริโภคจำนวนมาก ตั้งงบดูแลตัวเองระหว่าง 1,000-3,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ 14% ระบุว่าใช้งบเฉพาะกิจสำหรับสุขภาพโดยตรง ซึ่งทำให้พฤติกรรมด้านสุขภาพเปลี่ยนจาก “ค่าใช้จ่าย” มาเป็นการลงทุนระยะยาว

นอกจากนี้ กระแส Anti Aging กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่คนไทยให้ความสำคัญกับ “ผิวขาว” มาเป็นการให้ความสำคัญกับ “ริ้วรอยและความเสื่อมของผิว” มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคเลือกผลิตภัณฑ์ตามส่วนผสมที่ตรงกับปัญหา ไม่ใช่เลือกเพราะแบรนด์ ซึ่งส่วนผสมที่ได้รับความนิยมสูงได้แก่ Hyaluronic Acid เติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มฟู ดูสุขภาพดี, Vitamin C ช่วยฟื้นผิวให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา, Retinol ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ, Niacinamide ปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรงขึ้น และ BHA/AHA ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน

เทรนด์นี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมุมมองด้านสุขภาพของผู้คนที่เริ่มให้ความสำคัญกับ Healthspan ซึ่งเป็นช่วงเวลาของชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และสามารถดูแลตัวเองได้ มากกว่า Lifespan หรืออายุขัยรวม ผู้คนต้องการ “ยืดช่วงชีวิตที่แข็งแรง” และลดช่วงเวลาชีวิตที่ต้องทนทุกข์จากโรคเรื้อรังให้สั้นที่สุด จึงนำไปสู่การดูแลตัวเองรอบด้าน ทั้งโภชนาการ การออกกำลังกาย การนอนหลับ สุขภาพจิต และการใช้เวชสำอางหรือวิตามิน

ผู้บริโภคยุคใหม่โดยเฉพาะเจนอัลฟ่า (Gen Alpha) ที่กำลังเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์และแนวคิดที่ชัดเจนเรื่องคุณค่าชีวิต มองการดูแลสุขภาพเป็นพื้นฐานของความมั่งคั่ง และการให้ความสำคัญกับความถูกต้อง ความรวดเร็วและคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่าคนรุ่นก่อน

นางสาวนวลพรรณ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจของวัตสันในประเทศไทยได้ขยายสาขาเฉลี่ยปีละกว่า 50 แห่ง ทำให้จำนวนสาขาใกล้แตะ 800 จุดทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด และรักษาจุดยืนร้านสุขภาพ–ความงามครบวงจร ต่างจากคู่แข่งที่เน้นเฉพาะบิวตี้

“การแข่งขันรุนแรงขึ้นจากแบรนด์เล็กและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีวัยรุ่นที่เข้าใจเทรนด์และสร้างแบรนด์เร็ว ผ่านโซเชียลและไลฟ์สดอย่างมีประสิทธิภาพ สินค้าแบรนด์จีนมาแรง โดยคุณภาพเทียบมาตรฐานสากลและราคาแข่งขันได้ ทำให้ผู้เล่นใหญ่ต้องจับตาใกล้ชิดและบริหารพอร์ตสินค้าให้หลากหลายกว่าเดิม”

ขณะที่วัตสันชูความได้เปรียบด้าน “Differentiation” ทั้งการคัดสินค้าจำนวนมาก–หลากหลาย และการทำโปรโมชันเชิงลึก เช่น “ชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท” ที่ใช้ข้อมูลลูกค้านำ ทำให้โดดเด่นกว่ากลไก 1 แถม 1 แบบตลาดทั่วไป

“ผู้บริโภคยุคใหม่ “คิดไว–รู้ไว–ปรับไว” ทำให้ค้าปลีกต้องขยับเร็วทั้งสินค้า บริการ และกลยุทธ์ เพื่อตามตลาดให้ทัน” นางสาวนวลพรรณ กล่าว