
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าาวว่า ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในทุกมิติของประเทศ ซึ่งรวมไปถึงประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม
โดย ดีป้า เล็งเห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจไทยในการนำดิจิทัลโซลูชันมาใช้บริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อลดการปล่อยลดก๊าซเรือนกระจก ก่อนนำไปสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2065
ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties: COP) ครั้งที่ 26 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ Digital Grow Green
สำหรับโครงการ Digital Grow Green ไม่ได้มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยทันที แต่ต้องการสร้างความตระหนักรู้ว่า ธุรกิจที่อยู่ดำเนินในปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ในระดับที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อน ดังนั้นโครงการ Digital Grow Green
ในระยะแรก ดีป้า จึงมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ 400 ราย นำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้บันทึกข้อมูล คาร์บอนฟุตพรินต์ของธุรกิจ ก่อนนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ บริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนนำไปสู่การลดปริมาณ และบรรลุเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้ในการประชุม COP ครั้งที่ 26 อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจไทยปรับตัวได้เท่าทันกับโลกอนาคต
นอกจากนี้ โครงการ Digital Grow Green ยังมีการสนับสนุน National Platform แก่หน่วยงานภาครัฐใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการจดบันทึกข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร ก่อนนำข้อมูลมาวิเคราะห์
รวมถึงบูรณาการเป็นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป โดย ดีป้า ประมาณการณ์ว่า โครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิด การลงทุนในเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมราว 42.4 ล้านบาท และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 675 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Digital Grow Green ได้แล้ว วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2569 หรือจนกว่าจะครบตามจำนวนที่กำหนดผ่าน LINE OA: depa Thailand และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th
หนุนการท่องเที่ยว : การแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการใหญ่ AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2025 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ชิงเงิน รางวัลรวม 2,488,500 บาท ยืนยันจัดตามกำหนดเดิมในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตรภาคเอกชนรายสำคัญ ร่วมเป็น สักขีพยาน ทั้งนี้มีผู้สนับสนุนภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยมี มาม่า แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดย บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันในระยะทาง 10 กิโลเมตร (10K)
MINISO LAND : มินิโซ (MINISO) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก เปิดตัว MINISO LAND สาขาแรกในประเทศไทย ณ ย่านชอปปิงสุดฮิป สยามสแควร์ ใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคทั่วเมือง ซึ่งมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การชอปสุดสนุกภายในร้านธีม IP แห่งแรกของประเทศ โดยร้านแห่งนี้ถือเป็น Flagship Store แห่งใหม่ของมินิโซในกรุงเทพฯ ที่รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ กว่า 8,300 รายการ ภายใต้ดีไซน์ที่ชวนให้ผู้มาเยือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความสนุกเหนือจินตนาการ
KKP Better : ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดตัว KKP Better โมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชันใหม่ที่จะมาทดแทนKKP MOBILE พลิกโฉมจากการเป็นเพียงแอปธนาคาร สู่ผู้ช่วยวางแผนการเงินอัจฉริยะ โดยประมวลข้อมูลพฤติกรรมเพื่อออกแบบประสบการณ์ (UX/UI) ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจทางการเงินได้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมายของตัวเอง ทุกฟีเจอร์จึงไม่เพียงสะดวก แต่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสร้างวินัยการเงิน บริหารรายจ่าย และสะสมทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายชีวิตได้อย่างแท้จริง มุ่งจับกลุ่มผู้สนใจวางแผนการเงิน แต่ไม่มีเวลา หรือข้อมูลเพียงพอในการจัดการการเงิน