
ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึง Longevity
เทรนด์การรักสุขภาพไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ หรือ ไกลตัว นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกคนทั่วโลกได้เผชิญกับวิกฤติโรคระบาดร่วมกัน ส่งผลให้การบริโภคเพื่อสุขภาพเป็นมากกว่าเทรนด์ แต่คือการบริโภคกระแสหลักในสังคมปัจจุบัน
ในปี 2568 นี้ เทรนด์การรักสุขภาพถูกนิยามให้เป็นมากกว่าทางเลือกการใช้ชีวิตรูปแบบหนึ่ง แต่คือกระบวนทัศน์การเปลี่ยนแปลงสุขภาพแบบองค์รวมให้มีอายุขัยเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ ซึ่งนั่นคือความหมายของคำว่า Longevity ในบริบทสังคมปัจจุบัน
ด้วยพลวัตสังคมเช่นนี้ส่งผลให้มีรายงานตัวเลขจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ว่าในปี 2563 ทั่วโลกมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 1 พันล้านคน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็น 2 พันล้านคน ในปี 2593
สะท้อนให้เห็นข้อสังเกตที่ว่า “คนทั่วโลกกำลังอายุยืนขึ้น”
ความสำคัญของประเด็น Longevity ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล เพราะเมื่อประชากรทั่วโลกหันมาดูแลสุขภาพให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น บริบทสังคมนี้ส่งผลกระทบโดยตรงด้านประชากรศาสตร์
ในที่ประชุม World Economic Forum หรือ WEF ได้วางกรอบมุมมองต่อภาวะอายุยืนว่า เป็นความท้าทายเชิงโครงสร้างสังคมที่จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องคำนึงถึงความพร้อมของระบบสังคมในการรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร
โดยมีการกำหนดหลัก 6 ประการแห่งเศรษฐกิจอายุยืน (Six Longevity Principles) จากสภาเศรษฐกิจโลก ที่ครอบคลุมการสร้างระบบเพื่อความมั่นคงทางการเงิน การมีสุขภาพที่ดี การเข้าถึงโอกาสการทำงานและการเรียนรู้ ไปจนถึงความสามารถใช้ชีวิตเพื่อเป้าหมายส่วนบุคคล
และข้อมูลจากสภาเศรษฐกิจโลกกล่าวว่า หากนโยบายการคลังเกี่ยวกับผู้สูงอายุไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลทั่วโลกจะมีแนวโน้มขาดดุล GDP เฉลี่ย 9.1% ภายในปี 2603
จึงกลับมาเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกประเทศต้องเร่งดำเนินการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมดังกล่าว
ในประเทศไทย ปี 2560 มีจำนวนผู้สูงอายุ 100 ปีขึ้นไป กว่า 9,000 คน
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ให้ข้อมูลว่า คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4.4 ปีในทุก ๆ ทศวรรษตลอด 60 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 75 ปี และคนที่เกิดหลังปี 2559 คาดว่าจะมีอายุยืนถึง 80–98 ปี หากเทคโนโลยีด้านสุขภาพยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่รัฐบาลต้องตั้งรับคือ การปรับเปลี่ยนนโยบาย หากยังคงใช้นโยบายเดิม เช่น อายุเกษียณที่ต่ำเกินไปจะทำให้สูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่ยังมีศักยภาพทำงานได้ดี และในขณะเดียวกันต้องสามารถออกแบบให้เมืองสามารถรองรับผู้สูงวัย
เช่นเดียวกับประชาชน หากสังคมสามารถเอื้ออำนวยให้สามารถมีอายุขัยได้ยาวนานยิ่งขึ้น การดูแลสุขภาพเพื่อเป็นประชากรที่มีคุณภาพ จึงเป็นบทบาทของพลเมือง
Health is the new Luxury เป็นหนึ่งในข้อสังเกตเมื่อกล่าวถึงประเด็นการรักสุขภาพ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า นวัตกรรมเพื่อสุขภาพต่าง ๆ ล้วนมีราคาแพง รวมถึงการจะมีวิถีชีวิตที่เอื้ออำนวยให้สุขภาพดีนั้นต้องอาศัยทั้งทรัพยากรเงินและเวลา
หรือการที่ประเทศไทยกำลังสร้างโมเดล Longevity Hub ที่มีภูเก็ตเป็นต้นแบบ มุ่งเน้นไปที่การดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พร้อมจ่ายสูง (High-Net-Worth Individuals)
ส่งผลให้เป็นคำถามสำคัญคือ สุขภาพดีมีขาย แต่ต้องจ่ายแพงจริงไหม?
ดร. โจเซฟ แอนทูน แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ด้าน Longevity ได้สรุปว่าการบรรลุเป้าหมายการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ โดยอ้างอิงถึง 5 เสาหลัก ที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ดังนี้
โภชนาการ (Nutrition) : ไม่ใช่แค่อะไรที่กิน แต่เป็นเมื่อไหร่ที่กิน โดยเขาแนะนำให้ปฏิบัติตามหลัก The Longevity Diet ที่เน้นอาหารจากพืชเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับการจำกัดช่วงเวลาการกิน เพื่อส่งเสริมการเผาผลาญและการฟื้นฟูเซลล์
การเคลื่อนไหว (Exercise) : การออกกำลังกายแม้เพียงช่วงสั้นๆ ในระหว่างวัน ก็สามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพกายและจิตได้ การเคลื่อนไหวถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความแข็งแรงของร่างกายเพื่อใช้งานได้นาน
การนอนหลับ (Sleep) : ดร. แอนทูนถือว่าการนอนหลับที่มีคุณภาพ ในระยะเวลา 7-8 ชั่วโมง คือ การบำบัดร่างกาย เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเข้าสู่โหมดซ่อมแซมและฟื้นฟ
การจัดการความเครียด (Stress Management) : เนื่องจากความเครียดเรื้อรัง สามารถเร่งกระบวนการแก่ชราของเซลล์
สุขภาพสังคม (Social Capital) : ดร. แอนทูนเน้นย้ำว่า ความสัมพันธ์ที่ดี อาจเป็นปัจจัยชี้ขาดอันดับหนึ่งของ Longevity เลยก็เป็นได้ เพราะความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดของมนุษย์ ส่งผลโดยตรงออกมาทางสุขภาพกาย
ด้วยเหตุนี้ การกล่าวถึงเรื่อง Longevity ในสังคมไทย จึงมีขอบเขตกว้างไกลกว่าเรื่องสุขภาพ แต่มีทั้งการรับมือกับประชากรอายุยืน งบประมาณด้านสุขภาพ การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงโอกาสทางธุรกิจในเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตต่างๆ ซึ่งจะเป็นประเด็นที่ต้องคิดให้ครอบคลุมและลงรายละเอียดกันต่อไป รวมถึงในงาน THAIRATH FORUM 2025 : The Next New Economy
ร่วมค้นหาโอกาสใหม่ใน The Next New Economy ที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจมหภาค และนิยามการทำธุรกิจใหม่ ในยุคที่เทคโนโลยีระดับลึกพลิกชีวิตและมนุษย์อยู่ยืนยาวกว่าที่เคย
📅 27 ตุลาคม 2568 | เวลา 18.00–20.30 น.
📺 รับชมพร้อมกันทาง LIVE ทาง Facebook เพจ Thairath TV และ YouTube ช่อง Thairath News – ข่าวไทยรัฐ
ที่มา : World Economic Forum, TDRI, Atlethe News
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney