
Social Media Marketing บริษัท Ads4u.co ระบุว่า ในยุคที่คอนเทนต์วิดีโอคือราชาบนโลกออนไลน์ ทุกคนต่างฝันอยากให้วิดีโอของตัวเองกลายเป็นไวรัล มีคนดูเป็นแสนเป็นล้านในชั่วข้ามคืน แต่ความเป็นจริงคือวิดีโอส่วนใหญ่กลับจมหายไปท่ามกลางคอนเทนต์มหาศาล ทำให้การแจ้งเกิดเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมามีกลยุทธ์หนึ่งที่นักการตลาดและครีเอเตอร์จำนวนมากกำลังใช้อยู่เบื้องหลัง นั่นคือการ เพิ่มยอดวิว TikTok, เพิ่มยอดวิว Facebook, เพิ่มยอดวิว YouTube และ เพิ่มยอดวิว IG ผ่านผู้ให้บริการมืออาชีพ และเมื่อพูดถึงผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ Ads4u.co คือผู้นำอันดับ 1 ของไทยที่เข้ามาตอบโจทย์นี้โดยตรง
อย่างไรก็ตามหลายคนอาจสงสัยการเพิ่มยอดวิวผิดกฎหมายหรือไม่ คำตอบที่ชัดเจนคือไม่ผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่การแฮกหรือการโจรกรรมข้อมูล แต่เป็นเป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณา และปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายข้อใดที่ระบุว่าการซื้อขายยอดวิว ยอดไลค์ หรือผู้ติดตาม เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ส่วนข้อดีของการเพิ่มยอดวิว ที่มากกว่าแค่ตัวเลขการมียอดวิวสูงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามบนหน้าจอ แต่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของวิดีโอและแบรนด์ ด้วยการสร้าง Social Proof ดึงดูดสายตาผู้ชมจริง กระตุ้นอัลกอริทึมให้ทำงาน เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และสินค้า รวมถึงประหยัดเวลาและเร่งการเติบโต
สำหรับ Ads4u.co เราคือผู้ให้บริการ Social Media Marketing – SMM อันดับต้นๆ ของไทย และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย การันตีความน่าเชื่อถือและประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ช่วยให้ทุกคนเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ และสามารถเข้าถึงบริการการตลาดคุณภาพสูง มีการรับประกัน รวดเร็วและปลอดภัย รวมถึงมีบริการครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ลูกค้าต้องการ
ทั้งนี้ การใช้กลยุทธ์ เพิ่มยอดวิว TikTok, Facebook หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ผ่าน Ads4u.co ไม่ใช่แค่การปั๊มตัวเลข แต่คือการลงทุนทางการตลาดที่ชาญฉลาด เพื่อสร้าง แรงส่ง ให้กับคอนเทนต์ของลูกค้าท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด และเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถเปลี่ยนวิดีโอธรรมดาๆ ให้กลายเป็นไวรัลได้ในชั่วข้ามคืน
รับสิทธิลดหย่อนภาษี : นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า ธุรกิจประกันชีวิตเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพ รายได้ และการเงินระยะยาวไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แบบสะสมทรัพย์ แบบควบการลงทุนไปจนถึงแบบบำนาญหรือแบบเงินได้ประจำซึ่งแต่ละแบบมีบทบาทในการสร้างความมั่นคงให้ผู้เอาประกันภัยและครอบครัวแตกต่างกันประกันไม่ได้มีแค่คุ้มครอง แต่ช่วยลดหย่อนภาษี
นอกจากความคุ้มครองแล้วภาครัฐยังสนับสนุนการออมและการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพในระยะยาวโดยมีรายละเอียดการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่น่าสนใจ ดังนี้ :
• เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป (คุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป) : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 100,000 บาท
• เบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 25,000 บาท (เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้ว ต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
• เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ : ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท (ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินและเมื่อรวมกับ RMF, SSF และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข. อื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
• เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 15,000 บาท (โดยมีเงื่อนไขว่าบิดามารดาจะต้องมีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี)
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ย้ำว่า แม้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะเป็นผลพลอยได้ ที่น่าสนใจ แต่หัวใจสำคัญของการทำประกันชีวิตคือการสร้างความอุ่นใจและหลักประกันที่มั่นคงให้กับตนเองและครอบครัวทั้งปัจจุบันและอนาคตไม่ว่าจะเป็นการดูแล ลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย เป็นเงินทุนการศึกษาให้บุตรหลานหรือการเตรียมเงินไว้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพหลังเกษียณ
ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากกรมธรรม์จะต้องแจ้งความประสงค์และให้ความยินยอม (Consent) แก่บริษัทประกันชีวิตเพื่อนำส่งข้อมูลการชำระเบี้ยประกันไปยังกรมสรรพากร หากละเลยขั้นตอนนี้จะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีหลายกรมธรรม์ต้องให้ความยินยอมให้ครบถ้วนทุกฉบับ
อย่างไรก็ตาม ผู้เอาประกันภัยที่เคยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีแล้วหากมีการยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต ประกันภัยสุขภาพ หรือประกันชีวิตแบบบำนาญที่ใช้ลดหย่อนภาษีก่อนเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด จะถือว่าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย
ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจะต้องเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติมของปีภาษีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตไปแล้ว รวมถึงเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องจ่ายให้กับกรมสรรพากร ปลายปีนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ใช่แค่การวางแผนภาษี แต่เป็นการหันกลับมาทบทวนและสร้างหลักประกันที่มั่นคง เพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่อย่างมั่นใจ อุ่นใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
TrueSphere Central World โฉมใหม่ : ทรู คอร์ปอเรชั่น ยกระดับการให้บริการ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เดินหน้าส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย ปรับโฉมพร้อมขยายพื้นที่ TrueSphere Central World สู่ ‘First Class Service Destination’ จุดหมายใหม่ของบริการเหนือระดับ ที่ผสานความหรูหรา ไลฟ์สไตล์ และเทคโนโลยีครบครันใจกลางกรุงเทพฯ โดดเด่นด้วยโซนหลากหลายทั้ง Collaborative & Multifunction Space สำหรับการสร้างสรรค์และทำงานร่วมกัน Private First Class Seating พื้นที่นั่งส่วนตัว เพื่อการพักผ่อน และทำงานอย่างเหนือระดับ และโซน Flagship Lifestyle Devices & Gadget Accessories ที่รวบรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยจากหลากหลายแบรนด์ให้สัมผัสก่อนใคร และพบกับการเปิดตัวครั้งแรกในไทยกับ Rokid Max2 Black แว่นตา AR รุ่นอัปเกรดที่รองรับการใช้งานครบรูปแบบ และ Momax 1-Sense Smart Ring อุปกรณ์ Wearable Health Tech อัจฉริยะ
ด้านดีไซน์ยังคงเอกลักษณ์ความหรูหราในแบบ TrueSphere พร้อมเติมเต็มความสะดวกสบายสไตล์ First Class Co-Working Space ที่ให้บริการเหนือระดับโดยพนักงานผู้เชี่ยวชาญ และการดูแลอย่างใส่ใจด้วย First Class Complimentary Set รวมชุดเครื่องดื่มพรีเมียม และคุกกี้สูตรพิเศษ Crispy Almond Oatmeal Cookie มอบเฉพาะลูกค้า TrueBlack และ dtac Platinum Blue Member คนสำคัญ