เปิดโผ TOP 50 "มูลค่าแบรนด์สูงสุด" ปี 2025 แบรนด์จีนมาแรง ChatGPT ขึ้นแท่นดาวรุ่ง

Kantar BrandZ เผยแพร่ Top 100 Most Valuable Global Brands ประจำปี 2025 ฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งการเติบโตของบรรดาแบรนด์ระดับโลก ตั้งแต่ปี 2006 มูลค่ารวมของแบรนด์ 100 อันดับแรกของโลก (Global Top 100) เพิ่มขึ้นกว่า 9.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จนมีมูลค่ารวมสูงถึง 1.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 

อเมริกาเข้าครองตลาดโลก จีนมาแรง ยุโรปถดถอย 

ในปีนี้แบรนด์สัญชาติสหรัฐฯ ครองสัดส่วนถึง 82% ของมูลค่ารวมทั้งหมดใน Global Top 100 เพิ่มขึ้นจาก 63% เมื่อปี 2006 อย่างไรก็ตามพบว่าแบรนด์จีนยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตไว้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในหมวดเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา 

นำโดย Huawei เติบโต 142% จากปีก่อน TikTok เติบโต 24.5% จากปีก่อน แม้จะเผชิญแรงต้านจากหลายประเทศ แต่ยังคงรักษาอิทธิพลได้ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Meituan, Agricultural Bank of China, Alibaba, Tencent ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวต่อบริบทเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่แบรนด์จากยุโรปลดลงเหลือเพียง 7% จากที่เคยครอง 26% ในปี 2006 

แบรนด์ผู้เปลี่ยนเกม กำหนดอนาคตระยะยาว

บิ๊กเทคยังกินสัดส่วนแบรนด์มูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก นำโดย Apple ที่ยังครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 1,299,655 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน คิดเป็นกว่า 12% ของมูลค่ารวมใน Global Top 100 โดยวามน่าสนใจในไปนี้ พบว่า กว่า 71% ของมูลค่าแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นใน Global Top 100 นับตั้งแต่ปี 2006 มาจากแบรนด์ที่ "ปฏิวัติ" หมวดหมู่ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นใหม่ หรือแบรนด์ที่พลิกโฉมตัวเองอย่างสิ้นเชิง เช่น Uber, Booking.com และล่าสุด ChatGPT ที่เปิดตัวแรงที่อันดับ 60 ด้วยมูลค่า 43,562 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นอันดับสูงที่สุดในฐานะแบรนด์ใหม่ นับตั้งแต่ Nvidia เมื่อปี 2021 นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ดาวรุ่งหน้าใหม่ที่โดดเด่นจากทั่วโลก เช่น Stripe , Chipotle , Hilton , Uniqlo หรือ Doordash 

ด้านแนวโน้มในอุตสาหกรรม พบว่า แบรนด์ค้าปลีกยังโตต่อเนื่องหลังยุคโควิด โดยมูลค่าแบรนด์โดยรวมพุ่ง 48% อานิสงส์จากอีคอมเมิร์ซที่ตอบโจทย์ยุคเงินเฟ้อ ขณะที่แบรนด์อุปโภคบริโภคหลายกลุ่มเติบโตชะลอตัวหรือหดตัว เช่น เสื้อผ้า (0%), อาหารและเครื่องดื่ม (-1%) และของใช้ส่วนตัว (-5%) แต่แบรนด์อย่าง Uniqlo, Coca-Cola และ Dove ยังคงเหนือกว่าคู่แข่ง 

นอกจากนี้พบว่ามูลค่าแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดลง 11% จากพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่หันไปสู่สุขภาพ รวมถึงเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และตลาดที่เริ่มกระจายตัวไปยังรสชาติใหม่และแบรนด์คราฟต์มากขึ้น ด้านแบรนด์ลักชัวรีที่เคยโตสวนกระแสในช่วงโควิด ลดลง 2% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะอุปสงค์ที่อ่อนตัวในจีน เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าการโชว์สถานะ 

พลังของแบรนด์ ทนทานต่อวิกฤตเศรษฐกิจ 

อย่างไรก็ตามแม้ต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจหลายครั้ง แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดของโลกก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า S&P 500 และดัชนี MSCI World ได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตอกย้ำว่า “แบรนด์” คือ ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของบริษัท และไม่ควรถูกตัดงบการตลาดในยามวิกฤต แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดมักมีความสม่ำเสมอในสารที่สื่อและสามารถสร้าง “ความแตกต่างอย่างมีความหมาย” ที่ทำให้ผู้บริโภคยินดีจ่ายราคาพรีเมียมได้ โดยไม่กระทบต่ออุปสงค์ แม้จะต้องปรับขึ้นราคา 

ดูรายงานเพิ่มเติม Kantar

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   

https://www.facebook.com/ThairathMoney