รอบรั้วการตลาด : SKYWORTH ลุยตลาดโซลาร์เซลล์ในไทย ตั้งเป้า 3 ปี โต 1 หมื่นล้าน

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : SKYWORTH ลุยตลาดโซลาร์เซลล์ในไทย ตั้งเป้า 3 ปี โต 1 หมื่นล้าน

Date Time: 16 ก.ค. 2568 06:00 น.

Video

กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

Summary

SKYWORTH PV ประกาศชัด ลุยตลาดโซลาร์เซลล์ในไทย ตั้งเป้า 3 ปี โต 1 หมื่นล้าน

Latest


มิสเตอร์จิน ลิน ประธานกรรมการ บริษัท สกายเวิร์ท กรุ๊ป จำกัด หรือ KYWORTH  กล่าวว่า เราคือลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์กว่า 37 ปีในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมธุรกิจหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในครัวเรือน ระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ การให้บริการที่สอดคล้องกับชีวิตยุคใหม่ และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน 

โดยมีนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ผ่านศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) รวมถึงฐานการผลิตในหลายประเทศทั่วเอเชียและภูมิภาคอื่น ๆ และในปี 2567 SKYWORTH ถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 272 ใน Fortune China 500 ด้วยรายรับต่อปีเกือบ 7 หมื่นล้านหยวนจีน (ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) ซึ่ง SKYWORTH ยังคงแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่แข็งแกร่งและมั่นคงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

โดยในปี 2563 SKYWORTH ขยายสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มตัว ด้วยการก่อตั้งแบรนด์ SKYWORTH Photovoltaic (SKYWORTH PV) มุ่งพัฒนาโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ EPC  นำเสนอแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ ระบบกักเก็บพลังงาน โครงยึดติดตั้ง และบริการด้านวิศวกรรม ครอบคลุม ทั้งกลุ่มลูกค้าภาคที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจ

สำหรับประเทศไทย เราไม่ได้มาเพียงเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ แต่มาเพื่อสร้างความร่วมมือระยะยาว เพราะประเทศไทยมีศักยภาพสูงและมีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเรา เราเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของการร่วมมือนี้ เพราะพลังงานสะอาดไม่ใช่แค่เทรนด์ระดับโลก แต่คือความรับผิดชอบ ความจำเป็น วิสัยทัศน์ร่วมของโลกใบนี้

นางสาวว่านเฟย ฉู ประธานเจ้าหน้าที่สารสนเทศของสกายเวิร์ท กรุ๊ป,  ผู้อำนวยการและซีอีโอของสกายเวิร์ท พีวี และประธานบริษัทบริษัท สกายเวิร์ท รีนิวเอเบิ้ล เอเนอร์จี้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 37 ปีของกลุ่ม SKYWORTH PV ซึ่งก่อตั้งในปี 2020 ปัจจุบัน เป็นหนึ่งในแบรนด์พลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายอันดับ 2 ของประเทศจีน ด้วยกำลังการติดตั้งสะสมกว่า 25 กิกะวัตต์  และสถานีโซลาร์ที่พักอาศัยกว่า 750,000 แห่งทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ยังยังขยายธุรกิจไปแล้วกว่า 27 ประเทศทั่วโลกประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักในแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติ (PDP) ปี 2024 ที่มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่รวม 43 กิกะวัตต์ภายในปี 2037 โดย 24 กิกะวัตต์จะมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างจริงจังในระดับประเทศ

ทั้งนี้ SKYWORTH มีฐานการผลิต 3 แห่งในประเทศจีน ได้แก่ โรงงานแผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังการผลิต 5GW ในกว่างโจว โรงงานผลิตอินเวอร์เตอร์ 6GW และแบตเตอรี่ 3GW ในซูโจว และฐานการผลิตเซลล์ BC/แผงโซลาร์ 10GW ในไป๋เซ่อ 

สำหรับประเทศไทย เราพร้อมเดินหน้าส่งมอบโซลูชันพลังงานสะอาด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง บริการ EPC แบบครบวงจร และรูปแบบทางการเงินที่ตอบโจทย์ตลาดไทย เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันการใช้พลังงานสะอาด
ในภูมิภาคนี้ และธีมงาน SAIL WITH SKYWORTH – Make Every Ray of Sunshine Counts สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของเราในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยพลังงานสะอาด” เธอกล่าวเสริม

โดยภายในงาน ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 2 ฉบับ ได้แก่  SKYWORTH Group  กับ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) สำนักงานใหญ่ โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันผลักดันการพัฒนาพลังงานสะอาดในประเทศไทย ซึ่ง ICBC ยังประกาศให้ SKYWORTH PV เป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์หลักอีกด้วย SKYWORTH PV ลงนามข้อตกลงเชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับกองทุนพลังงานใหม่ 

พร้อมเปิดตัวกองทุนลงทุนพลังงานสะอาดมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และระบบจัดเก็บพลังงานทั่วเอเชีย รวมถึงลงทุนในสินทรัพย์พลังงานหมุนเวียนคุณภาพสูงอื่นๆ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยคาร์บอนต่ำในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า


ยกระดับมันสำปะหลังไทย :  นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า  กรมฯ มุ่งมั่นดำเนินงานโดยยึดแนวนโยบายรัฐบาลตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ และนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์   ที่มุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสทางการค้า เปิดตลาดโลก สร้างโอกาสไทยภายใต้ภารกิจนี้กรมฯ ให้ความสำคัญกับการดูแลทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย 

โดยมุ่งบูรณาการการทำงานและแก้ไขปัญหาทั้งระบบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ภายใต้แนวคิดไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทยเป้าหมายไม่ใช่เพียงรักษาตำแหน่งในตลาดโลก แต่เพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยในทุกมิติให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ผลักดันการขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังไทยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยสู่เวทีการค้าโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยเป้าหมายดังกล่าวกรมฯ จึงได้เดินหน้าจัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลกในครั้งนี้ 

ภายใต้แนวคิด Thailand Tapioca Next : GO Global Go Together เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดใหม่ๆ ที่จะช่วยต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการเจรจาการค้าระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าจากทั่วโลก

โดยการจัดงานดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับมันสำปะหลังไทยในตลาดโลก เสริมสร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพและมาตรฐานของมันสำปะหลังไทยรวมทั้งสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลังเข้าสู่อุตสาหกรรม ที่หลากหลายและตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยยกระดับราคามันสำปะหลังในประเทศให้มีเสถียรภาพ สร้างรายได้ให้กับประเทศและเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยตรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน 


นางอารดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน WTC 2025 ในปีนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 1,000 ราย ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานรัฐบาลต่างประเทศ ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน และเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยกิจกรรมในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรม มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ จะมีการเสวนาในหัวข้อ  จากไร่มันฯ สู่อนาคต : เส้นทางอุตสาหกรรมมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน 

โดยผู้เข้าร่วมงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย ผู้นำเข้าและผู้แทนจากหน่วยงานรัฐบาลต่างชาติ สำหรับงานในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ จะเปิดให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง รวมถึงผู้ที่สนใจได้เข้าร่วม 

รวมถึงมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์สำคัญ คือ การบรรยายในหัวข้อ  มัน...ไม่ธรรมดา : รับมือการค้าโลกใหม่ เปิดมุมมองโอกาสและความท้าทาย การจัดพิธีลงนามสัญญาซื้อขายมันสำปะหลังระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าต่างชาติ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ การจัดประชุมกลุ่มย่อย และการจัดนิทรรศการเพื่อนำเสนอศักยภาพของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

สำหรับงาน WTC 2025 จะมีความแตกต่างและแปลกใหม่กว่าครั้งที่ผ่านๆ มา โดยงานครั้งนี้จะถ่ายทอดแนวคิด Thailand Tapioca Next : GO Global Go Together ไปยังทุกกิจกรรมภายในงาน เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับมันสำปะหลังไทยสู่เวทีการค้าโลก รวมทั้งการสร้างโอกาสในการขยายการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ผ่านกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ส่งออกไทยและผู้นำเข้าต่างชาติจากหลากหลายอุตสาหกรรม


นอกจากนี้การจัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อหารือแนวทาง เฉพาะด้านในเชิงลึกในประเด็นด้านการยกระดับความร่วมมือการใช้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย รวมถึงการแปรรูปมันสำปะหลังไทยสู่การเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม  

โดยในปีนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์มันเส้น/มันอัดเม็ด และแป้งมันสำปะหลังแล้ว  ยังมุ่งเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่แปรรูปมาจากมันสำปะหลังด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นมิติใหม่ของการเพิ่มมูลค่าและการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้ามันสำปะหลังไทยในตลาดโลกอย่างยั่งยืน 

ทั้งนี้ ในปี 2567 ไทยสามารถส่งออกมันสำปะหลังได้รวมทั้งสิ้น 6.47 ล้านตัน สร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 110,255 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม - พฤษภาคม)  ไทยส่งออกได้ปริมาณ 4.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.16 จากปีก่อนที่มีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 2.96 ล้านตัน 

แม้ปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่มูลค่าการส่งออกกลับลดลง โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 45,358.32 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.52 จากปีก่อน ที่มีมูลค่าประมาณ 51,848.40 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากราคามันสำปะหลังในตลาดโลกลดลงมาตั้งแต่ต้นปี 2568 

อย่างไรก็ดี กรมการค้าต่างประเทศยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนแผนส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีโดยมุ่งเน้นการผลักดันการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปยังตลาด ที่มีศักยภาพในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อให้ปริมาณการส่งออกในปี 2568 บรรลุตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน


เอาใจคนเมือง : มร.ดะอิซะบุโระ โคะงะ กรรมการผู้จัดการ และนายเบญจพล ลิมพลญาณ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายสินค้าสุขภาพและโภชนาการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวอายิโนะโมะโต๊ะ ควิก มีล โจ๊กพร้อมทานสูตรต้นตำรับ ดึง โจ๊ก โซคูล เป็นพรีเซนเตอร์ มาการันตีความอร่อย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ