รอบรั้วการตลาด : PDPC ดึงผู้นำชุมชนนครปฐมร่วมสกัดภัยไซเบอร์ สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กล่าวว่า จังหวัดนครปฐม ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจของภาคกลาง ที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 365,987 ล้านบาท และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 297,901 บาท โดยมีภาคอุตสาหกรรมเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ร่วมกับภาคบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการสุขภาพ การศึกษา และการค้าปลีก 

ด้วยเหตุนี้ PDPC จึงได้เดินหน้ารณรงค์เชิงรุก สร้างความรู้สู่ชุมชน โดยลงพื้นที่นครปฐม พร้อมมุ่งสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล และเสริมภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในทุกระดับ ผ่านบทบาทของผู้นำชุมชนและกลไกในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนสู่สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและรู้เท่าทันมากขึ้น

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน และคณะผู้บริหารของสคส. ร่วมให้ความรู้ และข้อมูลกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ด้วย 

นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญจาก สคส. ให้คำปรึกษาและตอบข้อซักถามเกี่ยวกับปัญหาการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแจก กระเป๋าชุดข้อมูลความรู้ PDPC รู้แล้วรอด  ซึ่งออกแบบมาให้เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แก่ผู้นำชุมชน บุคลากรในท้องถิ่น และประชาชนทั่วไปอีกด้วย

สืบสานประเพณี : ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมวัฒนธรรม สืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ร่วมสืบสานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 โดยจัดริ้วขบวนภายใต้แนวคิด อุบลราชธานี ศรีแสงเทียน ถิ่นธรรม ถิ่นทอง” ถ่ายทอดความงดงามของวัฒนธรรมท้องถิ่น  

โดยมี เบลล่า-ราณี แคมเปน ในฐานะพรีเซนเตอร์ สินเชื่อกรุงไทยบ้านแลกเงิน มาสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน ร่วมขบวนในชุดไทยร่วมสมัย นารีศรีวนาลัย สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมี คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงานธนาคาร ร่วมเดินขบวน

ช่วยเกษตรกร : กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากภาวะผลผลิตล้นตลาด โดยสนับสนุนพื้นที่ให้เกษตรกรนำผลไม้มาจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรง ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ฯลฯ รวมน้ำหนักกว่า 4 ตัน นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน สะท้อนบทบาทของภาคเอกชนในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากพนักงาน ลูกค้า และประชาชน สามารถจำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็ว

โดยมี นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายผลไม้ และนางสาววรรณรัตน์ พันธุ์จันทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงาน Operations ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้การต้อนรับ ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

สร้างรายได้ให้ประเทศไทย : Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025 ปิดฉากลงอย่างงดงาม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมความงามอาเซียน ตอกย้ำบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มอันทรงพลังในการสร้างเครือข่ายธุรกิจ อัปเดตความรู้ระดับมืออาชีพ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทรนด์ล่าสุดที่กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมความงามในอาเซียน

งานครั้งนี้จัดโดยความร่วมมือระหว่าง BolognaFiere Cosmoprof, Informa Markets และ Shanghai Baiwen Exhibition โดยชี้ให้เห็นถึงบทบาทเชิงกลยุทธ์ของเวที Cosmoprof CBE ASEAN ในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากข้อมูลจาก Statista คาดว่าตลาดความงามและการดูแลส่วนบุคคลในอาเซียนจะมีมูลค่าสูงถึง 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปีละ 3.8% จนถึงปี 2573 ขณะที่ไทยยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาค โดยคาดว่าจะเติบโตถึง 11% ในปี 2568

งานในปีนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 23,000 คน จาก 66 ประเทศและภูมิภาค เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2567 โดยเฉพาะประเทศไทยมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้น 20% และจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 16% ประเทศที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ เมียนมา สิงคโปร์ และมาเลเซีย ด้านพื้นที่จัดแสดงมีมากกว่า 25,000 ตร.ม. ครอบคลุมการแสดงสินค้าจาก 650 บริษัท 2,000 แบรนด์ความงาม จาก 21 ประเทศและภูมิภาค เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทั้งในด้านพื้นที่ 16% และการเข้าร่วมจากต่างประเทศ 22%

เอาใจลูกค้า : นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิต ได้เดินหน้า สร้างสรรค์บริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้มากที่สุด บริการยื่นเคลมการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ผ่านระบบเครดิตคู่สัญญา (Cashless Claim)  โดยไม่ต้องสำรองจ่ายที่เรานำมาให้บริการในครั้งนี้ คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความตั้งใจในการใส่ใจดูแลลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการจ่ายค่าสินไหมเท่านั้น 

แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์ของลูกค้า ที่เราพยายามเติมเต็มให้ดีที่สุดในทุกจุดสัมผัสของการบริการ โดยลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตสามารถใช้บริการยื่นเคลม OPD แบบไม่ต้องสำรองจ่ายตามสิทธิความคุ้มครองของกรมธรรม์ ได้แล้ววันนี้  ณ สถานพยาบาลชั้นนำที่เข้าร่วมโครงการ 

ล่าสุดมีสถานพยาบาลพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (อาคารนวัตบริบาล) 2. ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต (SIRIRAJ H SOLUTIONS) และ 3. ศูนย์บริการสุขภาพรามาธิบดี พาราไดซ์พาร์ค