
เมื่อพูดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดนิยมจากเกาหลี คงหนีไม่พ้น “รามยอน” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการปรากฏตัวในซีรีย์เกาหลีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้กระแสการบริโภครามยอนไม่ใช่ถูกตีกรอบอยู่เพียงแค่ในประเทศบ้านเกิดเท่านั้น แต่ยังส่งอิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆอีกด้วย
เห็นได้จากในปี 2567 การส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (รามยอน) ของเกาหลีใต้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2566
แต่หากถามว่า รามยอน แบรนด์ใดยอดขายสูงสุดเกาหลีใต้ ก็คงหนีไม่พ้นบะหมี่ซองแดงรสเผ็ดยี่ห้อ ‘ชินรามยอน’ (Shin Ramyun) ที่ผลิตโดย Nongshim Co., Ltd. บริษัทอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ที่อยู่มานานเเล้ว
ซึ่งกว่าจะมาเป็นรามยอนระดับตำนานที่ครองใจคนทั่วโลกอย่างทุกวันนี้ นงชิม (Nongshim) ผู้ผลิตชินรามยอนได้ผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านโภชนาการและรสชาติเผ็ดร้อนสไตล์เกาหลี โดยมีจุดประสงค์เริ่มต้นเพื่อเป็นอาหารที่อร่อย อิ่มท้อง และมีคุณค่าทางอาหารสำหรับแรงงานทั่วประเทศในช่วงที่เกาหลีกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
แม้ในเวลานั้นรามยอนจะถูกมองว่าเป็นเพียงมื้ออาหารประทังชีวิต แต่ในเวลาต่อมา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคนทำงานหนักและผู้ที่มีกำลังซื้อน้อยไปอย่างปฏิเสธไม่ได้
ปัจจุบัน นงชิม ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก โดย New York Times ถึงขั้นยกให้เป็นสุดยอดรามยอนที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "Shin Black" ซึ่งเป็นชินรามยอนเวอร์ชันพรีเมียมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวตะวันตก
ควอน มินซ็อก ผู้จัดการขายฝ่ายต่างประเทศ บริษัท นงชิม กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 20,000 ล้านบาท และอัตราการบริโภคเฉลี่ยมากถึง 54 ซองต่อคนต่อปี ส่งผลให้ประเทศไทยติดอันดับ 9 ของโลกในด้านการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงความนิยมในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกที่สะดวก อร่อย และมีคุณภาพ ซึ่งกลายเป็นโอกาสสำคัญที่แบรนด์ต่างประเทศสามารถเข้ามาขยายฐานผู้บริโภคได้อย่างมั่นคง
นงชิม จึงเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรสชาติ คุณภาพพรีเมียม และสะท้อนความเป็นต้นตำรับเกาหลีอย่างแท้จริง พร้อมตั้งเป้าเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2568 และเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำหรับรสชาติที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยคือ SHIN Ramyun และ Jay Fai SHIN Ramyun Stir Fry Tom Yum Flavour (ชินรามยอน เจ๊ไฝ ต้มยำแห้ง) โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายของ Nongshim ในประเทศไทยเติบโตแบบสองหลัก (มากกว่า 10%) ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เปิดรับเทรนด์อาหารจากซีรีส์เกาหลีและมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้ นงชิม ยังได้เปิดตัว SHIN Ramyun Toomba (ชินรามยอน ทูมบ้า) ที่ผสานความนัวของครีมและชีส ตัดกับรสเผ็ดนิดๆ ได้อย่างลงตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเมนูที่คาดว่าจะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยคาดว่าชินรามยอนทูมจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1.2 พันล้านบาท จากยอดขายรวมของ Nongshim ในประเทศไทย ที่อาจจะสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง
ส่วนกลุ่มเป้าหมายของ นงชิม นับว่ามีความหลากหลาย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยกลางคน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ทุกคนสามารถรับประทานได้ และที่เกาหลี Nongshim ก็เป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ทุกคนเข้าถึง
“ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ นงชิม ไม่ได้กังวลเรื่องการแข่งขันจากแบรนด์เกาหลีอื่น ๆ เนื่องจากมองว่า นงชิม มีจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียมที่แตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยของบะหมี่ นงชิม กับบะหมี่ไทย ไม่แตกต่างสูงจนทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสบการณ์การบริโภคที่คุ้มค่า”
ปัจจุบัน นงชิม มีการจัดจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีศูนย์จัดจำหน่ายและโรงงานผลิตในหลากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน และเวียดนาม ความสำเร็จในการขยายธุรกิจในระดับนานาชาตินี้ สะท้อนถึงศักยภาพในการปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมความแข็งแกร่งให้ นงชิม เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
เจสลีน ซูอิน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนเนสท์ เทรดดิ้ง กล่าวว่า Honest Trading ได้นำเข้า นงชิม เข้ามาในประเทศไทยประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา (โดย นงชิม เข้ามาในไทยรวมแล้วประมาณ 20 ปีผ่านช่องทางอื่น ๆ ก่อนหน้านี้) และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความร่วมมือกับ "เจ๊ไฝ" เชฟสตรีทฟู้ดชื่อดังของไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ นงชิม ร่วมมือกับเชฟ และโปรเจ็กต์นี้ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย แต่ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ทั้งนี้ Honest Trading เป็นบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากเกาหลีใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากเกาหลี สู่ผู้บริโภคไทย ผ่านการคัดเลือกพันธมิตรแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ คุณภาพสูง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งในงาน THAIFEX ได้มีการนำ 4 แบรนด์ชั้นนำจากเกาหลีมาร่วมจัดแสดงในงาน
ได้แก่ Nongshim บะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับตำนาน ที่คนทั่วโลกรู้จัก, Orion ผู้ผลิตขนมเจ้าตำนานอย่างช็อกโกพาย, Sooin Sauce ผู้เชี่ยวชาญด้านซอสอาหารเกาหลีที่ตอบโจทย์ คนทำอาหารที่บ้าน และ Khee Soju แบรนด์โซจูพรีเมียมที่โดดเด่นด้วยกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม เราเชื่อว่าการรวมตัวของแบรนด์เหล่านี้ในบูธเดียวกันจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าชมให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีผ่านรสชาติอย่างแท้จริง
ดังนั้นด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นคุณภาพระดับพรีเมียม การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และการสร้างสรรค์ความร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่น ทำให้ “นงชิม” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนวัฒนธรรมอาหารเกาหลีให้เข้าถึงใจผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแท้จริง การก้าวเดินอย่างมั่นคงของ “นงชิม” ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง kedglobal