"รังสิต แดงโสภา" คุณธรรม-ซื่อตรง-มีเมตตา ธุรกิจที่มีความสุขของช่างทองที่ชื่อ "นะโม"

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"รังสิต แดงโสภา" คุณธรรม-ซื่อตรง-มีเมตตา ธุรกิจที่มีความสุขของช่างทองที่ชื่อ "นะโม"

Date Time: 31 พ.ค. 2568 05:15 น.

Summary

“เพราะอยากให้คนไทยได้มีความรู้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส โดนเอาเปรียบจากความไม่รู้” จึงทำให้ “นะโม...รังสิต แดงโสภา” ช่างทองหนุ่ม แห่ง “ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง&จิวเวลลี่” ตัดสินใจเปิดร้านรับซื้อทองคำ โดยทำคลิปสาธิตให้เห็นการสกัดและหลอมโลหะเครื่องประดับ

Latest

เอ็ม ดิสทริคและพันธมิตรย่านสุขุมวิทปรับรูปแบบจัดงานเคานต์ดาวน์ใหม่ ยกเลิกการจุดพลุ

“เพราะอยากให้คนไทยได้มีความรู้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส โดนเอาเปรียบจากความไม่รู้” จึงทำให้ “นะโม...รังสิต แดงโสภา” ช่างทองหนุ่ม แห่ง “ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง&จิวเวลลี่” ตัดสินใจเปิดร้านรับซื้อทองคำ โดยทำคลิปสาธิตให้เห็นการสกัดและหลอมโลหะเครื่องประดับ ที่มีส่วนผสมของทองคำ และรับซื้อทอง โดยให้ราคาซื้อตามเปอร์เซ็นต์และน้ำหนักทองคำตามความเป็นจริง เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับลูกค้า พร้อมให้ข้อมูลและความรู้กับประชาชนให้รู้ข้อเท็จจริงในเรื่องของทองคำ

จนทำให้ “นะโม” เป็นที่รู้จักในโลกโซเชียล และเป็นที่พึ่งของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ตั้งแต่เหนือจดใต้ทั่วไทย ดั้นด้นเดินทางไปหาเขาที่ร้านช่างทองถึงจังหวัดสระบุรี เพียงเพื่อจะได้นำทองคำหรือเครื่องประดับผสมทองคำ ไปขายให้เขาหลอมสกัด เพื่อพิสูจน์มูลค่าและราคาทองคำ เพราะมั่นใจว่าจะได้ราคาที่ถูกต้องและเป็นธรรม!!

“นะโม” ช่างทองวัย 39 ปี เล่าว่า เดิมทีเขาเป็นเพียงช่างทองที่เปิดร้านช่างทอง รับสั่งทำทองรูปแบบต่างๆ เช่น กรอบพระ แหวนนามสกุล ไปจนถึงงานเพชร และจิวเวลรีอื่นๆ โดยรับงานจากลูกค้าโดยตรงและงานสั่งทำจากร้านทองตู้แดงในตัวจังหวัด ซึ่งทำมาร่วม 13 ปีแล้ว กิจการก็ไปได้ดี

แต่จุดพลิกผันที่ทำให้เขามีชื่อเสียง ได้รับการชื่นชมในโลกโซเชียล มีจุดเริ่มต้นเมื่อราวกลางปี 2566 ได้มีคุณลุงลูกค้ามาสั่งให้ทำกรอบพระเลี่ยมทองให้ใหม่ โดยนำกรอบทองเก่ามาด้วย เขาจึงแนะนำลูกค้าให้เอากรอบเก่านี้มาเทิร์นได้ และตีมูลค่ากรอบทองเก่าให้คุณลุงราว 7 พันบาท ซึ่งราคาทองรูปพรรณในช่วงนั้นประมาณบาทละ 37,000 บาท

ปรากฏว่าคุณลุงตกใจและดีใจกับราคาที่เขาเสนอซื้อ เพราะก่อนหน้านั้น คุณลุงได้ไปถามขายกับร้านทองมาแล้ว ซึ่งตีราคาให้ที่ 1,500 บาท คุณลุงเห็นว่าได้ราคาเพียงเล็กน้อยจึงไม่ได้ขายไป เขาจึงอธิบายให้คุณลุงฟังถึงที่มาของการคำนวณและการตีราคาทองว่า เขาได้ตรวจเปอร์เซ็นต์ทองคำและชั่งน้ำหนักทองที่เหลือแล้ว จึงคำนวณราคาจากมูลค่าทองคำที่แท้จริงของคุณลุง และราคาที่รับซื้อ ก็ยึดจากราคารับซื้อทองรูปพรรณ ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ โดยไม่ได้หักเปอร์เซ็นต์ใดๆออก

เขายังได้สาธิตขั้นตอนการหลอม และการชั่งน้ำหนัก รวมทั้งการตรวจวัดเปอร์เซ็นต์ทองคำให้คุณลุงดูด้วย ซึ่งก่อนจากกันวันนั้น คุณลุงได้บอกและย้ำกับเขาว่า “นะโมคุณควรทำคลิปออกมาอธิบายให้ความรู้คนไทยในเรื่องนี้แบบที่ทำให้ผมดู เพื่อให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจและมีทางเลือกมากขึ้น”

นั่นจึงจุดประกายให้เขาตัดสินใจทำคลิปออกมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล ทาง TIKTOK ในขณะเดียวกันเขาก็ได้เดินเรื่องขอใบอนุญาตรับซื้อทองคำ เพื่อให้การทำธุรกิจของเขาถูกต้องตามกฎหมาย!!

โดย “นะโม” ขออนุญาตถ่ายคลิปและพูดคุยกับลูกค้าที่นำทองมาขาย โดยนำมาหลอมและสกัดเพื่อให้ได้เนื้อทองคำและนำมาวัดเปอร์เซ็นต์ของทอง ก่อนนำมาชั่งน้ำหนัก เพื่อคำนวณราคารับซื้อ ให้เห็นกันจะจะคาตา

แม้คลิปแรกๆยอดวิวจะไม่สูงมากนัก แต่เมื่อมีลูกค้าที่นำทองมาขายให้เขามีความหลากหลายมากขึ้นทั้งความหลากหลาย ที่มาของผู้คนจากต่างถิ่นต่างฐานะต่างความจำเป็น รวมทั้งความหลากหลายของที่มาของทองคำ

โดยเฉพาะมีคนที่ไปทำงานต่างประเทศ นำเครื่องประดับทองที่ซื้อจากต่างประเทศมาขาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทองที่มีเปอร์เซ็นต์ต่างจากทองไทย ที่ประเทศไทยกำหนดมาตรฐานส่วนผสมที่เป็นทองคำบริสุทธิ์ไว้ที่ 96.5 เปอร์เซ็นต์หรือเรียกว่าทอง 23.16K

 ทำให้เขาได้โอกาสทำคอนเทนต์อธิบายให้ความรู้ลูกค้าได้ว่า ทองบางประเทศเป็นทอง 99.99 เปอร์เซ็นต์ หรือ 24Kบางประเทศเป็นทอง 18K ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ทองบริสุทธ์ิ 75% หรือทอง 14K มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์ 58.5 หรือ 58.3% และนากที่มีทองคำเป็นส่วนผสม 37.5% หรือเรียกว่าทอง 9K

โดยพบว่าทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมทองคำบริสุทธิ์ ต่ำกว่า 96.5% นั้น ร้านทองตู้แดงทั่วไปส่วนใหญ่ มัก “ไม่รับซื้อ” หรือหากรับซื้อก็อาจจะถูกกดราคาหรือได้ราคาไม่สูงมาก แถมบางครั้งยังถูกมองว่าเป็น “ทองเค” หรือ “ทองปลอม”

ซึ่ง “นะโม” มองว่า อาจเป็นเพราะหน้าร้านทองส่วนใหญ่เป็นพนักงานขาย ซึ่งไม่มีความรู้หรือไม่เข้าใจเรื่องการตรวจวัดเปอร์เซ็นต์ทองคำ หรือบางร้านอาจไม่มีเครื่องตรวจวัดเปอร์เซ็นต์ทองที่หน้าร้าน รวมทั้งไม่ได้รับอนุญาตให้รับซื้อทองคำที่เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า 96.5% ขณะที่อีกเหตุผลคือร้านทองตู้แดง มีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องรอรวบรวมทองที่ซื้อมา เพื่อส่งไปให้ช่างทองนำไปหลอมสกัด จึงไม่สามารถให้ราคาตามเปอร์เซ็นต์ทองได้

ดังนั้น จึงทำให้ประชาชนผู้ที่มีทองคำประเภทนี้ในครอบครอง จึงไม่มีทางออก หมดที่พึ่ง และถึงขั้นสิ้นหวังว่าทองที่มีอยู่ถูกตีว่า “ไม่มีค่า” ร้านทองไม่รับซื้อ หรือขายไม่ได้ราคา จนถึงขั้นทำให้เข้าใจผิดได้ว่าทรัพย์สินเหล่านี้เป็นทองปลอม!!

ถนนจากทุกสารทิศจึงมุ่งไปหา “นะโม” ด้วยความหวังว่าเป็นที่พึ่งสุดท้าย ซึ่งมีทั้งคนเก็บขยะที่สะสมรวบรวมโลหะสีทองมาร่วมเป็น 10 ปี เดินทางมาร้านช่างทอง “นะโม” เพื่อให้หลอมพิสูจน์และขายให้นะโม เพื่อหวังจะได้ราคาที่ดีกว่าและเป็นธรรม แม้แต่คนไทยที่ไปทำงานรับกำจัดขยะบ้านคนชราในญี่ปุ่นหลังเสียชีวิต และได้ขยะที่มีเครื่องประดับทองปะปนมาด้วย รวมถึงภรรยาคนไทยที่มีสามีต่างชาติจากหลายประเทศทั่วโลก เมื่อกลับมาเมืองไทยก็จะนำทองมาขายให้ที่ร้านนะโมแทบทุกวัน!!

รวมถึงคนที่โดนหลอกซื้อทองไลฟ์สดในโลกโซเชียล ที่ต้องสูญเงินเป็นล้าน เพราะเห็นว่าราคาถูกไป CF ซื้อสะสมมา แต่กลับพบว่าเป็นเงินชุบทอง ที่แทบไม่มีเปอร์เซ็นต์ทองคำหรือมีส่วนผสมของทองคำที่ต่ำมาก ไปขายที่ไหนก็ไม่มีใครรับซื้อ รวมทั้งยังมีคนที่นำทองมาขายให้แล้ว พบว่าเป็น “ทองยัดไส้” ที่มีน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์ทองต่ำ แม้บางคนจะผิดหวังเมื่อพบความจริงว่าถูกหลอก แต่คนส่วนใหญ่ที่มาร้านช่างทองนะโมแล้ว จะออกไปด้วยรอยยิ้มและความสุข เพราะได้ราคาขายที่ดี มีมาตรฐานและเป็นธรรม

“ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมทำ ผมยึดมั่นและทำธุรกิจอย่างมีคุณธรรม ซื่อตรงและโปร่งใส ที่สำคัญคือมีจิตที่เมตตาต่อลูกค้า ผมยึดหลักใน 3 สิ่งนี้ เพราะลูกค้าที่มาส่วนใหญ่หวังพึ่งพาเราเป็นที่สุดท้าย หลังไปมาหลายที่แล้วไม่สามารถขายสมบัติที่เขามีได้ จึงทำให้ผมทำงานอย่างมีความสุขและได้ส่งต่อความสุขให้ลูกค้า ” ช่างทองหนุ่มแห่งเมืองสระบุรี กล่าวทิ้งท้ายเมื่อให้เขาพูดถึง Business on myway ของช่างทองที่ชื่อนะโม!!


เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ "Business On My Way" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ