หมดยุครอบเอวต้อง “เล็ก”เท่ากระดาษ A4 แฟชั่นพลัสไซส์ในจีนโตแรง ก้าวข้ามค่านิยม "ยิ่งผอม ยิ่งสวย"

ในอดีต สาวจีนจำนวนไม่น้อยเติบโตมากับค่านิยม “ผอมคือสวย” ที่ฝังแน่นชนิด ที่แทบไม่มีพื้นที่ให้รูปร่างอื่นๆได้หายใจ ตั้งแต่เทรนด์เอวบางเท่ากระดาษ A4 , ผู้หญิงควรหนักไม่เกิน 50 กิโลกรัม และ กระดูกไหปลาร้าต้องลึกพอจะวางเหรียญได้ 

ไปจนถึงแคมเปญทดสอบความผอมแบบสุดโต่ง ไม่ว่าจะเป็นการเทียบต้นขากับขวดน้ำหรือการวัดข้อมือด้วยนิ้ว ความงามถูกตีกรอบไว้แค่ผิวขาว รูปร่างบาง และใบหน้าเรียวเล็ก

กลายเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่พันธนาการผู้หญิงรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้ติดอยู่กับความวิตกกังวลเรื่องรูปร่างของตนเอง 

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า โลกเปลี่ยน และจีนก็กำลังเปลี่ยน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่อิทธิพลตะวันตกและโซเชียลมีเดียเข้าถึงง่ายขึ้น คลื่นความคิดแบบ body positivity หรือ การยอมรับความหลากหลายของรูปร่างเริ่มก่อตัวอย่างเงียบๆ และขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว 

โดยแบรนด์แฟชั่นเริ่มหันมาสนับสนุนเสื้อผ้าสำหรับสาวพลัสไซส์ อินฟลูเอนเซอร์รูปร่างไม่ตรงตามค่านิยมเดิมเริ่มมีพื้นที่ส่งเสียง และที่สำคัญ คนรุ่นใหม่เริ่มมองว่า “สุขภาพดี” และ “มั่นใจในแบบของตัวเอง” คือความสวยที่แท้จริง

ข้อมูลสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทย ณ เมืองเซี่ยเหมิน รายงานว่า ปัจจุบัน เมื่อเรา ค้นหาคำว่า “การยอมรับรูปร่างหลากหลาย” บนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu (RedNote)จะพบโพสต์มากกว่า 80,000 รายการ 

ขณะที่ “แรงบันดาลใจในการแต่งตัวสำหรับสาวพลัสไซส์” ก็มีมากถึง 50,000 รายการ แม้แต่นิตยสาร Vogue China ซึ่งถือเป็นแนวหน้าของแฟชั่นสุดล้ำในจีน ก็ยังได้เปิดพื้นที่ให้กับนางแบบพลัสไซส์อย่าง Chelsea Zhou และ Zhao Li ในบทบรรณาธิการแฟชั่นสำคัญเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา 

ย้อนไป ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างน่าสนใจในประเทศจีน จนส่งผลให้ตลาดแฟชั่นพลัสไซส์ (เสื้อผ้าไซส์ใหญ่) เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคิดเป็นประมาณ 20% ของการขยายตัวนี้มีแรงขับเคลื่อนมาจากการเปลี่ยนแปลงของรสนิยมแฟชั่นในกลุ่มชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตของจีน และการเข้าถึงที่สะดวกยิ่งขึ้นผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Neiwai, Maia Active และ Plusmall ซึ่งเป็นแบรนด์ของอินฟลูเอนเซอร์ หยาง เทียนเจิน ต่างก็ลุกขึ้นมาตอบสนองต่อความต้องการเสื้อผ้าพลัสไซส์ที่มีสไตล์และมีอัตลักษณ์เฉพาะ

ซึ่งมีการคาดการณ์ ว่าตลาดเสื้อผ้าพลัสไซส์ในประเทศจีนจะเติบโตจาก 42,510.68 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 ไปสู่ประมาณ 76,490.76 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2032 

เท่ากับเติบโตเฉลี่ยต่อปี  อยู่ที่ 6.73% บนความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเสื้อผ้าที่มีสไตล์และสวมใส่สบายสำหรับรูปร่างที่หลากหลาย รวมถึงการยอมรับแนวคิดเรื่องความหลากหลายทางรูปร่าง (body positivity) ที่เพิ่มขึ้น 

ตามข้อมูลจาก Statista’s Key Market Indicators ให้ข้อมูลว่าสัดส่วนของประชากรจีนที่จัดว่าเป็นผู้มีน้ำหนักเกิน(BMI > 25)  จะเพิ่มขึ้นอีก 3.2% ระหว่างปี 2024 ถึง 2029 โดยจะขึ้นไปแตะที่ 44.03% หลังจากเติบโตต่อเนื่องมา 15 ปีติดต่อกัน 

ผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีความต้องการเสื้อผ้าที่ออกแบบมาให้เหมาะกับรูปร่างของพวกเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่ขยายขนาดจากแบบเดิมเท่านั้น ข้อมูลในชุดเดียวกัน ยังชี้ว่า นี่กำลังทำให้ธุรกิจแฟชั่นพลัสไซส์ ขยายมากขึ้น เช่น Plusmall ที่ก่อตั้งในปี 2020 ได้รับความสนใจเป็นอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภค และมีการเติบโตที่น่าสนใจ 

กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เติบโตโดดเด่นที่สุด มียอดขายรวมทุกช่องทางทะลุ 50 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 83.3% และติดอันดับ 2 ของหมวดเสื้อผ้าสตรีไซส์ใหญ่บน Taobao ขณะที่จำนวนชิ้นของสินค้าที่มีการชำระเงินแล้ว รวมทุกช่องทางทะลุกว่า 230,000 ชิ้น เพิ่มขึ้น 55.91% 

นี่อาจสะท้อนได้ว่า คือช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านสำคัญในสังคมจีน ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้าไซส์ใหญ่ แต่เป็นการก้าวข้ามมายาคติความงามที่กดทับผู้หญิงมานานหลายทศวรรษ และเป็นโอกาสทางธุรกิจ 

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney