Chanel ยอดขายตก กำไรหดครั้งแรกนับตั้งแต่โควิด แบรนด์หรูยังอยู่ในภาวะซบเซา ภาษีนำเข้าซ้ำเติมกำลังหด

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

Chanel ยอดขายตก กำไรหดครั้งแรกนับตั้งแต่โควิด แบรนด์หรูยังอยู่ในภาวะซบเซา ภาษีนำเข้าซ้ำเติมกำลังหด

Date Time: 21 พ.ค. 2568 14:08 น.

Video

เนย ธนพร Full-time trader เส้นทางปั้นพอร์ตที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย I Money Secret EP.1

Summary

  • Chanel รายงานผลประกอบการปี 2024 ที่สะท้อนว่าแบรนด์หรูยังตกอยู่ในภาวะชะลอตัวทั่วโลก ยอดขายในภูมิภาคเอเชียรวมจีน ตลาดหลักลดลงถึง 7.1% ขณะที่ภาษีทรัมป์ได้กลายเป็นปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นราคาของ Chanel รวมถึงอุตสาหกรรมแบรนด์หรูโดยรวม

Latest


Chanel เปิดเผยว่ากำไรจากการดำเนินงานร่วงหนักเกือบหนึ่งในสาม โดยลดลงมาถึง 30% เหลือ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายลดลง 4.3% เหลือ 18.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นครั้งแรกที่ Chanel มียอดขายและกำไรจากการดำเนินงานลดลงพร้อมกัน นับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 จนต้องปิดร้านค้าทั่วโลก

แม้แบรนด์หรูที่มีอายุเกินหนึ่งศตวรรษอย่าง Chanel จะถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มั่นคงและมีความพรีเมียมสูงแต่การลดลงของยอดขายและกำไรในครั้งนี้ สะท้อนถึงแรงกดดันในอุตสาหกรรม

Leena Nair ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Chanel กล่าวว่า ผลประกอบการปี 2024 เกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาที่ Chanel เติบโตแบบไม่เคยมีมาก่อน โดยรายได้เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในช่วงสามปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามความผันผวนด้านเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นความท้าทายอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ และภาวะเช่นนี้กำลังส่งผลกระทบต่อยอดขายในบางตลาด

ยอดขายในอเมริกาลดลง 4.2% ขณะที่ยุโรปเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% ขณะที่ยอดขายในภูมิภาคเอเชียที่รวมถึงจีน ซึ่งถือเป็นตลาดหลักที่สร้างรายได้เกือบครึ่งหนึ่งให้กับ Chanel ลดลงถึง 7.1% เหลือ 9.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิจในประเทศ

ทั้งนี้บริษัทยอมรับว่าหนึ่งในสาเหตุที่กดดันกำไร คือ การลงทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยบริษัทเพิ่มงบลงทุนถึง 43% รวมเป็นประมาณ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยการซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น อาคารบนถนน Avenue Montaigne และ rue Cambon ในปารีส รวมถึงตึกสำหรับแฟลกชิปร้านใหม่ในนิวยอร์กและการซื้อกิจการร้านค้า

โดยปีที่ผ่านมา Chanel ได้ลงทุนในผู้ผลิตผ้าไหม Montero ผู้ผลิตเครื่องประดับโลหะ และโรงฟอกหนัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาว 10 ปีในการควบคุมห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้บริษัทยังใช้เงินอีก 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนแบรนด์ เช่น แฟชั่นโชว์และอีเวนต์สำหรับลูกค้า ตลอดทั้งปี

ด้าน Philippe Blondiaux ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Chanel ได้ปฏิเสธว่าการขึ้นราคาเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลง โดยเขากล่าวว่าเขาเชื่อว่าผู้บริโภค “เข้าใจอย่างดีว่าราคาของสินค้า Chanel สะท้อนคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้” พร้อมระบุว่า Chanel ได้ปรับขึ้นราคาสินค้าแฟชั่นในปี 2024 ประมาณ 3% และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในอัตราใกล้เคียงกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามบริษัทยังรอดูผลลัพธ์สุดท้ายจากการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องนโยบายภาษี ซึ่งกลายเป็นปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นราคา Chanel รวมถึงอุตสาหกรรมแบรนด์หรูโดยรวม แม้ว่า Chanel จะเปิดเผยว่าการลดลงของกำไรครั้งนี้จะเกิดขึ้นก่อนการประกาศนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ก็ตาม

แนวโน้มของ Chanel ในปี 2025 ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งความผันผวนของตลาดจีน และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงส่งผลต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของลูกค้าระดับบน

โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านหลังการลาออกของ Virginie Viard ในเดือนมิถุนายน โดย Chanel ได้แต่งตั้ง Matthieu Blazy เป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนใหม่ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเตรียมที่จะเปิดตัวผลงานแรกในงาน Paris Fashion Week เดือนตุลาคมนี้

อ้างอิงข้อมูล Bloomberg Financial Times 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ