รอบรั้วการตลาด : ไครโอวิวา พร้อมขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ในไทย

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : ไครโอวิวา พร้อมขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ในไทย

Date Time: 13 เม.ย. 2568 08:00 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

ไครโอวิวา พร้อมขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ในไทย ที่ได้มาตรฐาน AABB ครบ ทั้ง จัดเก็บ เพาะเลี้ยง และการรับรองแหล่งผลิตเซลล์ตั้งต้นที่มีคุณภาพ

Latest


นางสาวจิรัญญา ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เราในฐานะผู้ให้บริการธนาคารสเต็มเซลล์เกี่ยวกับการ พัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงระบบปฎิบัติการธนาคารสเต็มเซลล์ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของการผลิตสเต็มเซลล์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาใหม่ ATMPs (Advance Therapy Medicinal Products) ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐาน GMP/PICS ตามหลักเกณฑ์ผลิตยาขั้นสูงของสหภาพยุโรป เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดพื้นฐานที่จำเป็นในการผลิตยาขั้นสูง

โดยเน้นการป้องกัน และขจัดความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นอันตราย หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย โดยในส่วนของห้องปฏิบัติการของ ไครโอวิวา ที่มีมาตรฐานและศักยภาพที่สูงอยู่แล้วยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกห้องปฏิบัติการในการเก็บ, ค้นคว้า, วิจัย ไปจนถึงขั้นตอนการคัดเลือก สเต็มเซลล์ เป็นแนวทางมาตรฐานสากลเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับห้องปฏิบัติการทางสเต็มเซลล์อื่นๆ

ทั้งนี้ ไครโอวิวา วางแผนไว้ว่า จะทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้นและสิ่งที่ทาง ไครโอวิวา ให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือ ราคาในการรักษาที่คนทั่วไปสามารถจ่ายได้ด้วย เป้าหมายสำคัญอีกประการที่ทาง ไครโอวิวา มุ่งเน้นก็คือการให้สาธารณสุขบางหน่วยงานสามารถใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาผู้ป่วยได้

พร้อมทั้งสามารถลดค่าใช้จ่ายของระบบสาธารณสุขของประเทศได้ด้วย หากเอกชนและภาครัฐร่วมมือกันขับเคลื่อนธุรกิจนี้อย่างจริงจัง การใช้สเต็มเซลล์เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งในเรื่องของการรักษาโรคและการชะลอวัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนแล้ว นวัตกรรมนี้ยังจะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล เนื่องจากคนทั่วโลกยอมรับถึงคุณภาพของการบริการทางการแพทย์ของประเทศไทย และ Medical Tourism ก็เป็นหนึ่งในรายได้ที่สำคัญของประเทศ

ด้านนางสาวกมลรัตน์ ศรีถวิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ ไครโอวิวา ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 จนถึงวันนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ การเก็บรักษาและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของไทย การขยายห้องปฏิบัติการสำหรับจัดเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ 3 เท่า เป็นหนึ่งในแนวทางเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย

รองรับการขยายโอกาสจัดเก็บสเต็มเซลล์จากทารกสู่บุคคลทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมุ่งเป้าไปที่การผลิตผลิตภัณฑ์ยาใหม่ในกลุ่ม ATMP (Advance Therapy Medicinal Product) โดยการผลิตนั้นจะต้องสอดคล้องกับมาตรฐาน GMP/PICS ตามหลักเกณฑ์ผลิตยาขั้นสูงของสหภาพยุโรป โดยเน้นการป้องกัน และขจัดความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นอันตราย หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้ไครโอวิวา ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญของรัฐในการผลักดันและส่งเสริมศักยภาพธุรกิจที่มีความทันสมัย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจให้กับประเทศตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มดำเนินการ

ปัจจุบัน ได้รับการส่งเสริม ใน 3 โครงการ ได้แก่ Cord blood Banking การจัดเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ, Testing Service (กลุ่ม Mesenchymal Stem Cell) และล่าสุด ลงทุนในโรงงานผลิต ATMPs (Advance Therapy Medicinal Product) ซึ่งอยู่ในกลุ่มการผลิตยาขั้นสูง สะท้อนถึงความพร้อมในด้านเทคโนโลยีการผลิต ระบบคุณภาพ และความมุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ขณะเดียวกันเรายังได้วางเป้าหมายไปที่การผลิตผลิตภัณฑ์ยาใหม่ ในกลุ่ม ATMPs ทำให้ไครโอวิวาต้องสร้างมาตรฐานการเป็น Biomanufacturing ที่สมบูรณ์แบบ เพราะการผลิต ATMPs ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูงจะต้องสอดคล้องไปกับมาตรฐาน GMP/PICS ตามหลักเกณฑ์ผลิตยาขั้นสูงของสหภาพยุโรป โดยเน้นการป้องกันและขจัดความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นอันตราย หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย จึงจำเป็นต้องมีองค์การอาหารและยาเข้ามาควบคุมผลิตภัณฑ์

สำหรับมาตรฐาน GMP-PIC/s หรือ Good Manufacturing Practice – Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme (PIC/S) เป็นมาตรฐานการผลิตยาและเวชภัณฑ์ระดับสากลที่เข้มงวดที่สุด มีการควบคุมทุกขั้นตอนตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการบรรจุ เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน ให้ผู้บริโภคได้รับยาที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ นั้นเป็นเหตุผลที่เราต้องออกแบบห้องปฎิบัติการที่มีทันสมัยและมีความพร้อมที่สุดและจะต้องผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา

ล่าสุดเราได้รับใบอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบัน (แบบ ผ.ย.2) ซึ่งเป็นการรับรองสถานที่ผลิตยาที่มีมาตรฐาน สามารถผลิต MSCs เพื่อการวิจัยทางคลินิกได้ ปัจจุบันเรากำลังวิจัยและพัฒนายาและเวชภัณฑ์เพื่อให้ อย. เข้ามาตรวจสอบ และใบอนุญาตรับรองความปลอดภัยของยาต่อไป

มร.โจเซฟ เฮนรี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง วิวาลดี้ พับลิค รีเลชั่นส์ (วิวาลดี้พีอาร์) กล่าวว่า วิกฤตมักเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่มีใบแจ้งเตือนล่วงหน้า และมักมาเยือนในจังหวะที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ วิธีการตอบสนองขององค์กรคือตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทุกอย่าง

โดยในช่วงเวลาเช่นนี้ เราจะเห็นทั้ง แบรนด์ที่แก้ปัญหาได้ไวและ ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว กับ แบรนด์ที่ต้องเหนื่อยกับการกอบกู้ชื่อเสียง สำหรับนักประชาสัมพันธ์มืออาชีพ การอยู่เหนือวิกฤตไม่ใช่แค่มี แผนรับมือ แต่ต้องพร้อม ยึดพื้นที่การสื่อสาร ก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลาย

ย้อนดูเหตุการณ์แผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดที่ทำให้คนจำนวนมากอยู่ในภาวะวิตกกังวล โรงแรมและบริษัทอสังหาฯ มากมายต้องเข้าสู่โหมดจัดการวิกฤตอย่างเร่งด่วน และการตอบสนองต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างแบรนด์ที่เตรียมพร้อมและแบรนด์ที่ไร้แผนการ โรงแรมหลายแห่งรีบติดต่อลูกค้าทันที ส่งข้อมูลอัปเดตความปลอดภัยและคำแนะนำอย่างชัดเจน

ขณะที่หลายแห่งก็สื่อสารอย่างล่าช้า ส่งผลให้เกิดความสับสนและวิตกกังวล บทเรียนสำคัญจากเรื่องนี้คือ การสื่อสารที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพช่วยสร้างความเชื่อมั่น ส่วนการสื่อสารที่ล่าช้า สร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นในระยะยาว

อย่างไรก็ตามในภาวะวิกฤต ประชาชนมองหาแบรนด์ที่กล้ากำหนดทิศทางและสร้างความอุ่นใจ องค์กรที่รอนานเกินไปกว่าจะส่งเสียง ก็จะหมดโอกาสในการเป็นที่จดจำในฐานะ เข็มทิศ ในวันที่ประชาชนหาทางไม่เจอ นอกจากนี้ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในเวลาฉุกเฉินนั้น ไม่ใช่แค่การให้ข้อเท็จจริง แต่คือการแสดงความห่วงใย ความเข้าใจ ควบคู่ไปกับข้อมูลที่ชัดเจน เมื่อแบรนด์สื่อสารคำแนะนำที่ชัดเจนและแสดงออกถึงความใส่ใจความรู้สึกอย่างจริงใจ องค์กรเหล่านี้จะได้รับความเคารพและความไว้วางใจจากสาธารณชน รวมไปถึงจากพนักงานขององค์กรเองด้วย

ทั้งนี้ แผนจัดการวิกฤต (Crisis Management Plan) ที่ดีไม่ได้ดีแค่บนกระดาษหรือในไฟล์ แต่ต้องเข้าถึงได้จริงและเข้าใจผู้คนอย่างลึกซึ้ง เมื่อเกิดวิกฤต เรามักจะมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ผลกระทบภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน การดูแลความเป็นอยู่และจิตใจของพนักงานไม่เพียงช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตด้วยความมั่นใจ แต่ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นที่พวกเขามีต่อองค์กรที่พวกเขาทำงานให้อีกด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ