Gig Economy บูม คนรุ่นใหม่หันหลังให้งานประจำ ทำอาชีพอิสระมากขึ้น มหาลัยปั้นหลักสูตรสร้างนักธุรกิจ

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

Gig Economy บูม คนรุ่นใหม่หันหลังให้งานประจำ ทำอาชีพอิสระมากขึ้น มหาลัยปั้นหลักสูตรสร้างนักธุรกิจ

Date Time: 12 ก.พ. 2568 01:08 น.

Video

SAWAKAMI บลจ.ญี่ปุ่นบุกไทย | BrandStory Exclusive EP.26

Summary

ผลสำรวจชี้ Gen Z กว่า 66% และมิลเลนเนียล 71% สนใจทำงานอิสระ-ธุรกิจส่วนตัวมากขึ้น ส่งผลให้สถาบันการศึกษาเร่งปรับตัวพัฒนาหลักสูตรปริญญาตรีสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มุ่งผสานเทคโนโลยี-นวัตกรรม เน้นเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตอบโจทย์เทรนด์การทำงานยุคใหม่ ขณะที่ตลาด SME-สตาร์ทอัพไทยคึกคัก สร้างมูลค่า GDP กว่า 3 แสนล้านบาท สร้างงานกว่า 14 ล้านตำแหน่ง พร้อมรองรับคลื่นลูกใหม่ที่หันมาทำธุรกิจส่วนตัวเพิ่มขึ้น

Latest


ด้วยปัจจัยที่ผลักดันให้คนรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นจากชั่วโมงการทำงาน เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนในการเริ่มต้นธุรกิจ หรือแม้แต่ความช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและเอกชน แม้ธุรกิจและสตาร์ทอัพในไทยจะเติบโตได้ดี แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญ เช่น ปัญหาด้านเงินทุน ขาดทักษะด้านการบริหารธุรกิจ และการปรับตัวสู่ยุค AI จึงมีการเปิดหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาเจ้าของธุรกิจและสตาร์ทอัพให้มีความเชี่ยวชาญรอบด้าน โดยเน้นที่ AI Technology, Digital Marketing, Innovation และให้โอกาสเรียนรู้จาก CEO ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ

ผศ.ดร.เกรียงไกร สัจจะหฤทัย คณบดีคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่า จากการสำรวจของ Deloitte Global 2023 ในกลุ่ม Gen Z และ Millennial Survey พบว่าคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานและหารายได้ โดยเน้นความยืดหยุ่นและการทำงานแบบ Gig Economy รวมทั้งการสร้างรายได้จากธุรกิจส่วนตัวและงานอิสระ แทนการพึ่งพางานประจำ

ข้อมูลจากการสำรวจระบุว่า 66% ของ Gen Z และ 71% ของ Millennials สนใจหารายได้เสริมผ่านงานอิสระ เช่น งานขนส่งออนไลน์ การสร้างเนื้อหาบนโลกออนไลน์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม ความสนใจนี้สะท้อนถึงความต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วยการลงทุนในทักษะส่วนบุคคลและธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ทั้งนี้ SME และสตาร์ทอัพมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนถึง 99% ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศและสร้างงานกว่า 14 ล้านตำแหน่ง ธุรกิจเหล่านี้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) กว่า 300,000 ล้านบาทในปี 2024 ส่วนธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น FinTech, HealthTech, และ AgriTech กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ในเทรนด์โลกจากการสำรวจของ Guidant Financial ในสหรัฐฯ พบว่า 13% ของธุรกิจใหม่ในประเทศนั้นเป็นของ Millennials โดย 55% ของกลุ่มนี้มั่นใจในความสามารถในการบริหารธุรกิจของตนเองให้ประสบความสำเร็จ รายงานจาก Mintel ยังเผยว่า 25% ของ Millennials ทั่วโลกมีแผนที่จะเริ่มต้นธุรกิจใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจและแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่กำลังขยายตัวในระดับโลก

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ผลักดันให้คนรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจส่วนตัว ได้แก่:

  1. ความยืดหยุ่น: งานประจำแบบเดิมที่มีกำหนดชั่วโมงทำงานเริ่มไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
  2. เทคโนโลยีและดิจิทัลแพลตฟอร์ม: การใช้เทคโนโลยีช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการเริ่มต้นธุรกิจ
  3. การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน: ภาครัฐมีบทบาทในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น การลดขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทและการตั้งกองทุนสนับสนุน SMEs

อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไข เช่น

  1. การเข้าถึงแหล่งเงินทุน: หน่วยงานภาครัฐและเอกชนสนับสนุนโครงการต่างๆ เช่น TED Youth Startup ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้าถึงเงินทุนได้มากขึ้น
  2. ขาดทักษะด้านบริหารธุรกิจ: เช่น การวางแผนการเงิน การตลาดดิจิทัล และการจัดการซัพพลายเชน
  3. การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง: การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เช่น การใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยศรีปทุมได้มองเห็นเทรนด์และความสำคัญของการสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ทอัพและ SMEs ของประเทศจึงได้เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรสร้างเจ้าของธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในระดับปริญญาตรีที่เน้นการบูรณาการความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมกับการสร้างธุรกิจสองสาขาหลัก ได้แก่

  1. สาขาสหวิทยาการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของประเทศที่เน้นการเลือกเรียนข้ามศาสตร์ อีกทั้งยังเปิดกลุ่มมุ่งเน้นการสร้างเจ้าของธุรกิจดิจิทัลและแบรนด์อินฟลูเอนเซอร์ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในยุคดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
  2. สาขาการเป็นเจ้าของธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้าง Startup และเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และนวัตกรรม ประกอบให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

รวมถึงหลักสูตรเหล่านี้ยังมีโปรแกรมระยะสั้นเพื่อเพิ่มทักษะ (Upskill) และปรับทักษะ (Reskill) สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเติบโตในยุคดิจิทัล โดยการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและการสร้างเครือข่ายกับธุรกิจในระดับประเทศและต่างประเทศ

ผศ.ดร.เกรียงไกร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทุกหลักสูตรมุ่งเน้นการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือทำจริงเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การทำธุรกิจในอนาคต โดยการเรียนข้ามศาสตร์และการเรียนรู้จากเครือข่ายพันธมิตรที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ”

ท้ายที่สุด มุมมองในอนาคตการสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนการเติบโตของ SMEs และสตาร์ทอัพในประเทศไทยไม่เพียงแต่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสให้กับชุมชนท้องถิ่น เช่น ธุรกิจในกลุ่ม Green Business และ Social Enterprise ที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ