(16 ม.ค.) หุ้นบริษัท Richemont พุ่งทำสถิติใหม่ โดยพุ่งขึ้นกว่า 16.36% ที่มูลค่า 161.40 ฟรังก์สวิส แซงหน้าระดับสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ 161.10 ฟรังก์สวิส ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบวันนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2008
สืบเนื่องจากการรายงานยอดขายในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2024 เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แม้ว่าไตรมาสที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากดีมานด์ในตลาดจีนที่ลดลง ทั้งนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 พันล้านยูโร (6.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามแลกเปลี่ยนคงที่ในช่วงสามเดือนจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม
อานิสงส์ครั้งนี้ยังทำให้ดัชนีหุ้นหรูยุโรป (European luxury stocks) พุ่งขึ้นมากกว่า 7% ซึ่งนับเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบวันนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 โดยหุ้นกลุ่มบริษัทหรูคู่แข่งอย่าง LVMH และ Kering เพิ่มขึ้นประมาณ 7% Moncler ของอิตาลี และ Burberry เพิ่มขึ้นประมาณ 7% Hermes ผู้ผลิตกระเป๋า Birkin เพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ Swatch เพิ่มขึ้นสูงถึง 10% เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ Richemont รายงานการเติบโตที่ตัวเลขสองหลักในทุกภูมิภาค ยกเว้นเอเชียแปซิฟิก ซึ่งยอดขายลดลง 7% นำโดยจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊าที่ลดลงไปกว่า 18% แต่ได้รับการชดเชยด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคอื่นๆ
อนึ่งช่วงปีที่ผ่านมาราคาหุ้นบริษัทผันผวนสืบเนื่องจากการปรับโครงสร้างคณะผู้บริหารระดับสูง ดีมานด์ของตลาดลักชัวรี่ที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจีน ซึ่งเคยเป็นแรงขับเคลื่อนหลักกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย
ผลประกอบการดังกล่าวถือเป็นการกลับมาเติบโตอีกครั้งของบริษัท บ่งชี้ถึงสัญญาณเชิงบวกสำหรับความแข็งแกร่งของภาคส่วนสินค้าแบรนด์หรูในยุโรปช่วงเทศกาลวันหยุด อีกทั้งยังสะท้อนสัญญาณบวกให้กับอุตสาหกรรมลักชัวรี่โดยรวมที่มีแนวโน้มกลับมาคึกคักในช่วงต้นปี 2025 โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรปและเอเชียแปซิฟิก ไม่รวมจีนแผ่นดินใหญ่ที่การขับเคลื่อนจากอุปสงค์ภายในประเทศอย่างการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อ้างอิงจาก Reuters
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -