แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำ “แม่ยกไทย” เทใจให้โอปป้าทั้งสอง จนเกิดเป็นที่มาของแฮชแท็ก #ใจฟู หรือ #คนของใจ ว่ากันตามตรง สิ่งสำคัญที่ทำให้ “ทุกด้อม” มารวมตัวกันที่นี่ ดูเหมือนจะเป็น การรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแบบลงลึกถึงระดับ local ที่ไม่ใช่แค่เมืองหลัก แต่จะเป็นเมืองรอง หรือ อุทยานแห่งชาติ ที่น้อยคนนักจะเลือกไป แบบเรียลๆ แล้วหนึ่ง
การชอบธรรมชาติ มองโลกมุมบวก รักสัตว์ สุภาพ และไม่ใช้คำหยาบคาย อีกทั้งการพูดภาษาไทยของหนุ่มเกาหลีที่จะผิดๆ เพี้ยนๆ ไปบ้าง แต่โดยรวม #ทัชใจ มากๆ ไม่ว่าจะเป็น บุดด้าอ้วน, โรงพยารถ, จริงๆอร่อยมาก, ยายุงกัด, ไข่ฟ๊ก หรือแม้กระทั่ง ใจฟู
หากจะให้เห็นภาพชัดๆ ก็ยกตัวอย่างเช่น การเดินทางด้วยรถไฟไปเที่ยวทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง, ขี่ซาเล้งเที่ยวสุพรรณบุรี หรือแม้กระทั่ง นั่งรถไฟรับลมแบบฉ่ำๆ ไปหาลิงที่ลพบุรีซึ่งคลิปนี้เป็นจุดกำเนิดของ “ลิงไม่ใช่เพื่อนคัลแลน” เพราะโดนลิงกัดหัวนั่นเอง
รวมทั้งการมีบาง ep ที่ชวนเพื่อนๆ น้องๆ มาร่วมออกเฟรมด้วยทั้งน้องแดน เคอร์บี้ จูดี้ ฯลฯ ก็เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างไม่ขาดสาย ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความ “คลีน” ในแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่ง แต่กลับออกมาได้ดีเลยทีเดียว นั่นจึงทำให้ “คัลแลน-พี่จอง” กลายเป็นอีกหนึ่ง “ผู้ทรงอิทธิพลทางโซเชียลมีเดีย" ที่แม้แต่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังต้องทาบทามมาเป็นพรีเซนเตอร์การท่องเที่ยว โดยทั้งสองคนก็ยินดีช่วยประชาสัมพันธ์อุทยานฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมเข้าถึงผู้คนในสังคมมากขึ้น
จึงทำให้นักท่องเที่ยวสายตามอย่างเราๆ แห่ตามรอย ใช้ชีวิต แบบพี่จองกับคัลแลนกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังปักหมุดของใช้ที่ว่าดีตามด้วยเช่นกัน ทำให้ล่าสุดพาสปอร์ตอุทยานแห่งชาติหมดเกลี้ยง ต้องเร่งผลิตเพิ่ม ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่านาทีนี้ยูทูบเบอร์งานชุก ด้อมปังจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก “คัลแลน-พี่จอง”
สอดคล้องกับข้อมูลของ Wisesight Research ที่ทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2566 พบว่ามีการพูดถึง “คัลแลน-พี่จอง” และช่องนี้โดยรวมกว่า 143,548 ข้อความ ได้รับเอ็นเกจเมนต์รวมกว่า 20 ล้านครั้ง
และความปังของทั้งคัลแลนและพี่จองยังไปต่อ เพราะหลายแบรนด์ต่างก็แห่ชิงตัว “คัลเลน-พี่จอง” มาเป็นพรีเซนเตอร์ โหมโฆษณาสินค้า อย่างล่าสุดทั้ง 2 หนุ่มจะได้ร่วมงานกับ Samsung (ซัมซุง) ในการเป็นพรีเซนเตอร์กับ มาริโอ้ เมาเร่อ ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้ปล่อยภาพออกมาชวนให้ติดตามเป็นที่เรียบร้อย และอีกหลายแบรนด์ที่วางหมากชิงตัวคัลแลน และพี่จอง มาสร้างเอ็นเกจให้กับแบรนด์ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า “อินฟลูเอนเซอร์” มีอิทธิพลต่อการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ และกลยุทธ์ทางการตลาดมากน้อยแค่ไหน? เพราะในโลกของความเป็นจริงการรีวิวแบบเรียลๆ การใช้ตัวบุคคลที่มีอิทธิพล เป็นสิ่งที่คนยุคนี้ต่างแสวงหา เพราะคนต่างก็ต้องการเสียงหัวเราะ ความแปลกใหม่ ความจริงใจ และอะไรที่แตกต่าง ที่หาได้จากโซเชียลมีเดีย หรือ โลกออนไลน์ ที่เพียงแค่ Search ก็เจอทันที
ดังนั้น “แบรนด์” อาจจะต้องดึงในจุดนี้มาปรับให้เข้ากับลุคของตัวเอง และสื่อสารด้วยความจริงใจไปยังผู้บริโภค อาจจะเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้ “ทัชใจ” ลูกค้าได้ในที่สุด ดังเช่นเหมือนตอนที่ทรงอย่างแบด Paper Planes ขึ้นแท่นขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนม เพราะปล่อยเพลงที่ฟังง่ายๆ มีเนื้อเพลงสนุก นั่นก็ทำให้แบรนด์หลายๆ แบรนด์ต่างดึง Paper Planes มาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยเช่นกัน อาทิ แลคตาซอย, นมตรามะลิ หรือแม้กระทั่ง ไอศกรีมแมกโนเลีย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney