กรีนโปรดักส์ เทรนด์ผู้บริโภค ปี 2567 “เอกา โกลบอล” ชี้ ระเบียบโลกใหม่ เข้มสินค้าคาร์บอนโอกาสธุรกิจ

การมาของเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม ผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้า ในอุตสาหกรรมต่างๆ เร่งปรับตัว หลังจากที่ ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หันมาเลือกซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทที่ทำธุรกิจ แบบคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

เจาะมุมมองของ “เอกา โกลบอล” ผู้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เผยว่า เมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน กำลังสนับสนุน “กรีนโปรดักต์” มีโอกาสขยายตัวมากขึ้น

ชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EKA GLOBAL ระบุ ทิศทางตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต และ บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารปี 2567 มีโอกาสเติบโตอย่างดี จากสัญญาณการขยายตัวที่ดีขึ้นมากจากปีก่อน และกลับเข้าสู่สถานการณ์เป็นปกติ นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตามทิศทางตลาดส่งออกอาหาร 

ทั้งนี้ จากการที่เราเชื่อว่า ปีหน้า เทรนด์ตลาดส่งออกอาหารทั่วโลกจะสดใสและคึกคักมากขึ้น เอกา โกลบอล คาดการณ์ยอดขายทั้งปี 2567 จะเติบโตกว่า 10-15% จากปี 2566 และเป็นการเติบโตในระดับที่ดีเท่ากับปี 2564 แม้ยังไม่มีแผนการลงทุนขยายงานใหม่ก็ตาม 

แต่จะมุ่งเน้นการวางกลยุทธ์ที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นสำหรับตลาดที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และไทย โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งบริษัทฯ เพิ่งลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ (PUNE) เพื่อรองรับตลาดอินเดียที่เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมากกว่า 100% ในปีนี้

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังจะให้ความสำคัญกับงานด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า และตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์โลกที่กำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก 

“ปีหน้า ผู้บริโภคจะยิ่งตื่นตัวและมีความต้องการสินค้ากรีนโปรดักต์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับหลายประเทศทั่วโลกจะเริ่มออกกฎระเบียบด้านการค้า และกำหนดใช้มาตรการทางด้านภาษีสินค้าคาร์บอนที่เข้มงวดและจริงจังยิ่งขึ้น”

CEO “เอกา โกลบอล” ยังกล่าวว่า ในอนาคต หากผู้ผลิตอาหาร ยังคงเน้นผลิตแต่อาหารสด ซึ่งมีอายุการจัดเก็บที่สั้น โดยไม่มีนวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วยปิดจุดอ่อน ก็จะทำให้เสียโอกาส และยังเป็นการสูญเสียทรัพยากร โดยบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร จะช่วยเพิ่มโอกาสและการขยายตลาด ให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจในพื้นที่ที่ไกลขึ้น หรือ แม้แต่การส่งออกไปต่างประเทศ เพราะสามารถเพิ่มอายุการจัดเก็บอาหารนอกตู้เย็นได้ยาวนานกว่า 2 ปี และยังรีไซเคิลได้ 100% 

อย่างไรก็ดีในปีหน้า จะต้องจับตาดูภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ถึงแม้ว่าจะส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีมากขึ้นจากปีนี้ แต่น่าจะไม่หวือหวามากนัก อีกทั้งตลาดโลกยังมีความไม่นอนของเทรนด์ดอกเบี้ย ซึ่งจะกดดันต้นทุนทางการเงินและการขยายตัวของภาคธุรกิจได้