
ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก ประกอบกับยุทธศาสตร์ในการปักหมุดย่านการค้าสำคัญ และวางเป้าหมายในการ ‘พัฒนาย่านการค้า ไม่ใช่เพียงพัฒนาโครงการศูนย์การค้า’ สอดรับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยภาพรวม เช่นเดียวกับเมืองที่เป็นย่านการค้าสำคัญในโลก ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากระบบรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมสำคัญภายในกรุงเทพฯ
และจากประสบการณ์การบริหารธุรกิจรีเทล มากกว่า 4 ทศวรรษ บริษัทฯ ‘สร้างย่านการค้าจนประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา’ บริษัทฯ จึงมีความพร้อมในการพัฒนาย่านการค้าให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น สอดรับกับแผนพัฒนา การขยายตัวของเมือง ผ่าน 3 โครงการศูนย์การค้า ใน 3 มุมเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และมีความโดดเด่น ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 3 โครงการกว่า 50,000 ล้านบาท
โดยโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ ศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ใจกลางย่านการค้าถนนสุขุมวิท จะเป็นความ เร้าใจใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยหลับใหล ซึ่งรวบรวมศิลปะแห่งการใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์มาไว้ในที่เดียว รวมถึงเป็น Entertainment Hub of Asia และจะสร้างปรากฏการณ์ BANGKOK CALLING THE WORLD พร้อมด้วยอภิมหาปรากฏการณ์เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 1 ธันวาคม นี้ ภายใต้งบ 1,000 ล้านบาท ฉลองร่วมกันทั้ง เอ็มดิสทริค
สำหรับอีก 2 มุมเมือง ฝั่งตะวันออกกับเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ สาขาบางกะปิ และเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ สาขาบางแค จะปั้นสู่การเป็นศูนย์กลางความมหัศจรรย์แห่งการใช้ชีวิต ที่สมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ด้วยแนวคิด A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE : ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว โดยจะมีการฉลองครั้งใหญ่ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ และในต้นปี 2567 ที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท
เกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็มดิสทริค (MR. KRIENGSAK TANTIPIPHOP, CEO OF EM DISTRICT) กล่าวว่า ดิ เอ็มสเฟียร์ เป็นเพียงก้าวแรกในการเติมเต็ม เอ็มดิสทริค ที่ประกอบด้วย 3 ศูนย์การค้า ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ ให้สมบูรณ์ในอนาคต เมื่อรวม 3 ศูนย์การค้าเข้าด้วยกัน เอ็มดิสทริค จะเป็นศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบ ที่สามารถขับเคลื่อนถนนสุขุมวิท ให้เป็นย่านการค้าสำคัญดังเช่น ย่านการค้าสำคัญในหลายประเทศ เป็นสิ่งใหม่ในอุตสาหกรรมรีเทลที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ทั้งนี้ เอ็มดิสทริค จะเป็น DISTRICT OF HAPPENING โดยที่จะมีร้านอาหาร ที่ปิดดึกหลังเที่ยงคืน บางร้านเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เป็นศูนย์รวมเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด SLEEPLESS METROPOLIS หรือเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ผสานกับศักยภาพของเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับเวิลด์คลาส อาทิ UOB LIVE ที่เป็น WORLD-CLASS ARENA ความจุ 6,000 ที่นั่ง รองรับการจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมระดับโลก สนับสนุนแนวคิดการสร้างศูนย์กลางเอนเตอร์เทนเมนต์ในระดับภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนการเป็นสถานที่โชว์เคสของสุดยอดนวัตกรรมยนตรกรรมที่เป็น INNOVATIVE ระดับโลก อย่าง Rolls-Royce, BMW
ทั้งยังรวมเทรนด์และไลฟ์สไตล์กว่า 300 ร้านค้ามากกว่า 1,000 แบรนด์ บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร กับ 2 อาคารที่เชื่อมต่อกัน
เนื่องจากในปัจจุบันย่านบางกะปิและบางแค มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอาศัยอยู่ ดังนั้นจึงได้มีการวาง Positioning โครงการเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค สู่การเป็น ‘มหานคร’ แห่งใหม่ ที่สมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก บนทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตสำคัญ โดยทั้ง 2 โครงการ ที่มีพื้นที่รวมกว่า 700,000 ตารางเมตร (บางกะปิ 350,000 ตารางเมตร, บางแค 350,000 ตารางเมตร) จะช่วยสร้างปรากฏการณ์ของอาณาจักรศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ
สุดท้ายนี้ด้านกำลังซื้อ ศุภลักษณ์ มองว่า เป็นนี้ปีที่ทั่วโลกกำลังเลียแผล แต่แน่นอนว่ากำลังซื้อปีหน้า และปีถัดๆ ไปจะกลับมาดีอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจัยก็จะมาจาการฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวนั่นเอง