
‘รวยกระจุก จนกระจาย’ เรื่องจริงที่ต้องยอมรับว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-2565) ทำให้คนไทยจนลงมาก จำนวนคนที่หลุดเส้นความยากจน (poverty line) รายได้ต่ำกว่า 2,802 บาทต่อคนต่อเดือน เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็มี “เศรษฐีใหม่” มากหน้าหลายตา เกิดขึ้นในประเทศไทยมากเช่นกัน
กลุ่มหนึ่ง ยังคงรวยเพิ่มขึ้น เพราะแม้แต่โควิด ก็ยังทำอะไรไม่ได้ อีกกลุ่ม มักเป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจ ที่ได้อานิสงส์เต็มๆ จากการเติบโตของ E-commerce สินค้าอุปโภค บริโภค ที่ซื้อขายผ่านกันทางออนไลน์เป็นหลัก โดยเฉพาะสินค้าด้านความงาม ด้านสุขภาพที่เฟื่องฟูอย่างสูงในยุคปัจจุบัน
เช่นเดียวกับ กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุน้อยร้อยล้าน อาชีพ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ รวยคริปโต - NFT กล้าลงทุน และประสบความสำเร็จในธุรกิจกิจการส่วนตัวในเวลารวดเร็ว หรือแม้แต่ เจ้าของธุรกิจที่อาจปล่อยเงินกู้ให้กับคนทั่วไป ก็มีฐานะ “ร่ำรวย” ขึ้นเช่นกัน
บ้านหรูทำไมขายดีจัง?
ข่าวโครงการบ้านหรู แห่เปิดใหม่ และ Sold Out (ปิดการขาย)ในเวลารวดเร็ว รับอานิสงส์คนรวยไม่สะเทือนขาลง “เศรษฐกิจ” มีขึ้นให้เห็นบ่อยครั้ง ปนความแปลกใจ ว่าประเทศไทยมีคนร่ำรวยมากขนาดนั้นเชียวหรือ?
โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ร้อนแรงทั้งฝั่งดีมานด์และซัพพลายใหม่ ซึ่งอีกแง่ อาจกล่าวได้ว่า “บ้านหรู” ก็กำลังถูกมองเป็นทรัพย์สินที่น่าลงทุน เอาชนะ “เงินเฟ้อ” สำหรับผู้มาก่อนกาลเช่นกัน
ข้อมูลจากเอเย่นต์บ้านหรูรายใหญ่ของไทย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ‘อาทิตยา เกษมลาวัลย์’ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการ เผยข้อมูลน่าสนใจว่า “อสังหาฯไทย” ถูกจับตามองโดยตลอดช่วงโควิด เพราะภายใต้ตลาดรวม (บ้าน-คอนโดมิเนียม) ชะลอตัวลงไป โดยเฉพาะโครงการคอนโดฯใหม่ แทบไม่มีการเปิดขายเลย แต่ “ตลาดบ้านหรู” ทะลักทั้งจำนวนโครงการเปิดใหม่ และการซื้อ-ขาย จากความต้องการของเศรษฐีคนมีเงิน
หากแบ่งเซกเมนต์ในตลาดบ้านหลักๆ ให้พอเข้าใจ ตลาดบ้าน จะประกอบไปด้วย
บ้านหรู 30 ล้านบาท เปิดใหม่พีก 1,136 หลัง
ซีบีอาร์อี เผยว่า ปีที่แล้ว ตลาดบ้านทุกระดับราคา มีจำนวนซัพพลายเปิดใหม่ทั้งหมด ราวๆ 3.5 หมื่นยูนิต ซึ่งฟื้นตัวดีขึ้น จากช่วง ปี 2563 และ ปี 2564 โดยกลับมาเริ่มใกล้เคียงกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด อย่างไรก็ดี บ้านราคาถูก ชะลอตัวลงมาก ขณะ บ้านราคาปานกลาง ยังทรงๆ ตัว
ต่างจาก กลุ่มบ้านลักชัวรี ที่ใช้เรียกบ้านตั้งแต่ระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป เติบโตสวนทาง โดยเมื่อปีที่แล้ว บ้านลักชัวรี หรือบ้านหรู มีการเปิดใหม่มากถึง 1,136 หลัง ขณะ ณ ไตรมาสแรก ปีนี้ มีบ้านระดับราคานี้ เข้ามาใหม่ในตลาดเพิ่มแล้ว 86 หลัง
ซึ่งถ้านับสถิติย้อนช่วง 5 ปี (ปี 2560-2565) เจาะเฉพาะ ทำเลหลักๆ กทม.-ปริมณฑล มีบ้านหรูราคามากกว่า 30 ล้าน สะสมอยู่ในตลาด 4,108 หลัง แบ่งเป็นขายออกแล้ว 3,206 หลัง คิดเป็น 78% และอยู่ระหว่างการขายที่ 902 หลัง
“พบว่า บ้านใหม่ในกลุ่มลักชัวรี ก่อนโควิด มีการเปิดตัวเฉลี่ยแค่ปีละ 260 หลัง แต่ขณะในช่วง 3 ปี โควิด ตลาดนี้กลับเติบโตสวนกระแส มีการเปิดขายโครงการใหม่ ขึ้นมาเฉลี่ย 645 หลัง เพิ่มขึ้น 132%”
บ้านแพง บ้านหรู บ้านลักชัวรี ใครกันเป็นลูกค้า
นักวิเคราะห์อสังหาฯ คนเดิม อธิบายปรากฏการณ์นี้เพิ่มเติม ว่า ยอดขายบ้านหรูระดับลักชัวรี ที่เติบโตพุ่งขึ้นมาในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ถึง 78% ไต่ระดับยอดขายรวมจากปี 65 ที่อยู่ที่ 68% นั้น มาจากความต้องการของลูกค้ากลุ่มคนรวย มีเงิน มีกำลังซื้อสูง แต่ที่น่าสนใจ คือ การซื้อของกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่ อายุยังน้อย
“บ้านระดับนี้ เมื่อก่อน อาจต้องเป็น เศรษฐีร่ำรวย หรือทำงานเก็บเงินมาเป็นเวลานานหลายปี ถึงจะซื้อได้ แต่ทุกวันนี้ มีกลุ่มคนที่หาเงินง่าย รวยเร็ว ตั้งแต่อายุน้อย กล้าใช้เงิน ซื้อของบ้าน มองหาชีวิตดีๆ ฉะนั้น เรื่องการซื้อบ้าน 30 ล้าน จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา ขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้า ที่เป็นคุณหมอ ผู้บริหาร บริษัท-องค์กรระดับสูง ก็ยังมีมากเช่นกัน”
ทำเลสุขุมวิท ที่ดินแพง บ้านแพง แต่ดีมานด์พุ่ง 10 เท่า
กลุ่มลูกค้าบ้านลักชัวรีที่มาแรงในปีนี้ อย่างสะท้อนจากปรากฏการณ์ ความสำเร็จของโครงการระดับบนมากมายที่ทยอยเปิดตัวออกมาตั้งแต่ต้นปี อย่างล่าสุด กลุ่มบริษัทเอ็นริช ที่เคยพัฒนาโครงการ เดอะมาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ในย่านราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านเดี่ยวราคา 30 ล้านบาท ซึ่งสามารถปิดการขายได้ในเวลารวดเร็วช่วงโควิดนั้น
ก็ประกาศเปิดโครงการใหม่ บ้านเดี่ยวซุปเปอร์ลักชัวรี “อาร์ค สุขุมวิท 39” โดยเป็นการร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัทพลังงานเบอร์ใหญ่ของญี่ปุ่น (ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง) ในราคาขายตั้งแต่ 65 ล้านบาท และหลังที่แพงที่สุด คือ 133 ล้านบาท บนทำเลใจกลางสุขุมวิท ด้วยจำนวนเพียง 12 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ เป็นบ้านสูง 6 ชั้น ขนาดที่ดินตั้งแต่ 42-84 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 535-829 ตร.ม. ขนาด 4-5 ห้องนอน และที่จอดรถ 4-6 คัน
แต่กลุ่มลูกค้าที่สนใจ มีมากกว่าจำนวนบ้านที่มีมากกว่า 10 เท่าตัว ท่ามกลางราคาที่ดินย่านสุขุมวิท ยังสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 9% หากการซื้อขายแปลงที่ดินที่แพงที่สุดอยู่ที่ 3.9 ล้านบาทต่อ ตร.ว. (ย่านสารสิน) ย่านสุขุมวิท ก็แพงอยู่ที่มากกว่า 2-3 ล้านบาทต่อ ตร.ว.
ข้อมูลอินไซต์ของเอ็นริช ยังเผยว่า กลุ่มลูกค้าซื้อบ้านแพงระดับนี้ มีความต้องการใน 3 เรื่องหลักๆ
ตัวอย่างผลตอบรับดังกล่าว อาจพิจารณาได้มาจากหลายปัจจัยข้างต้น พร้อมๆ กับ สัญญาณดีมานด์ลูกค้าที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่องที่ต่างไปจากอดีต เพราะเดิมที บ้านระดับนี้ คนมีเงิน เศรษฐี อาจเลือกเก็บเงิน ซื้อที่ดิน สร้างเอง ขณะเดียวกัน ผู้พัฒนา หรือ ดีเวลลอปเปอร์ ไม่กล้าจะทำขาย เพราะกลัวขายไม่ออก แต่วันเวลาผ่านไป โดยเฉพาะช่วงโควิดที่เป็นตัวเร่งให้พฤติกรรมการอยู่อาศัยปรับเปลี่ยน บ้านที่เป็นตัวแทน บ่งบอกถึงรสนิยม ฐานะ แสดงตัวตน จึงมีหน้าที่ มากกว่าเป็น “ที่อยู่อาศัย”