ช็อปเสร็จขอตรวจ ทำไมต้องขอดูใบเสร็จหลังช็อปปิ้ง ก่อนออกจากร้าน?

ในไทยที่เห็นได้ชัดๆ ก็จะมี แม็คโคร (Makro) เมื่อเลือกซื้อของเสร็จแล้วจ่ายเงิน ก็จะมีพนักงานยืนอยู่ตรงจุดทางออกและขอดูใบเสร็จ พร้อมกับกวาดสายตาไปที่สินค้าที่เราซื้อมาในรถเข็นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น 

โดยที่ทุกสาขา พนักงานที่ยืนตำแหน่งนี้ทุกคนจะทำงานแบบเดียวกัน จากนั้นจะปั๊มตราประทับลงบนใบเสร็จว่า ‘ตรวจแล้ว’ เราก็สามารถเดินผ่านออกไปได้

ตำแหน่งนี้เรียกว่า Loss prevention หรือ เจ้าหน้าที่ป้องกันทรัพย์สินสูญหาย ซึ่งในต่างประเทศจะมีเกือบทุกห้าง แต่ห้างทั่วไปส่วนใหญ่จะตรวจอยู่หลังร้าน เวลาพนักงานเบิกจ่ายสินค้า ก็จะมีการตรวจใบรายการกับสินค้าที่ขนไปหน้าร้านแล้วปั้มตราประทับ แต่กับบางห้างก็จะมีการตรวจตรงจุดทางออกด้วยเช่นกัน โดยเป้าหมายของการตรวจนี้ คือ การตรวจเช็กความถูกต้องของแคชเชียร์

อย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ Walmart, Costco และ Sam's Club ที่มีนโยบายขอตรวจสอบใบเสร็จรับเงินก่อนออกจากร้าน จึงทำให้ผู้คนอาจตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมต้องให้ความร่วมมือ?

และสิ่งนี้เองก็ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์จากลูกค้าบางคนเกี่ยวกับการปฏิบัตินี้บนโซเชียลมีเดีย โดยเป็นการโพสต์คลิปวิดีโอลงบน TikTok ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของผู้คนที่มีต่อข้อปฏิบัติอันไม่สมเหตุสมผลของการขอตรวจใบเสร็จรับเงินก่อนออกจากร้านค้า ซึ่งพวกเขาเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าว

หากว่ากันตามตรงไม่ได้มีกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ซื้อต้องแสดงใบเสร็จรับเงินที่ร้านค้าปลีกใดๆ ก็ได้ แต่การปฏิเสธที่จะแสดงใบเสร็จรับเงินนั้น อาจจะทำให้ร้านค้ากักตัวคุณได้เช่นกัน ดังเช่น ลูกค้าคนหนึ่งได้มีการฟ้องร้องต่อ Walmart หลังจากปฏิเสธที่จะแสดงใบเสร็จรับเงินสำหรับการซื้อสินค้าที่ Walmart ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเขาเอาไว้ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ Walmart ก็ไม่ได้มีการผิดชอบใดๆ ต่อลูกค้า

แล้วเหตุใดร้านค้าจึงตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน ถ้ามันทำให้เกิดความตึงเครียด? Business Insider ได้เปิดเผยว่า เหตุผลที่ชัดเจนที่สุดคือเพื่อป้องกันการโจรกรรม หากว่ากันตามตรงการขอตรวจใบเสร็จก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายซะทีเดียว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ค้าปลีกต้องเผชิญกับอัตราการโจรกรรมที่สูงขึ้น และความสูญเสียเหล่านั้นก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่าสูงซะทีเดียว รวมทั้งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ซื้อเองจากการปิดร้าน หรือ การขึ้นราคาสินค้าที่ตามมา

เมื่อปีที่ผ่านมา Michael Fiddelke ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Target ห้างค้าปลีกของสหรัฐฯ กล่าวว่า การขโมยของตามร้านเพิ่มขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ขาดทุนมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์

หรือแม้กระทั่ง Dollar Tree ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อเมริกาก็ได้มีการออกมาเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีการล็อกสินค้าเพื่อป้องกันการโจรกรรมในร้านค้ามากขึ้น 

ด้าน CEO ของ Walmart ได้มีการกล่าวว่า จะมีการปิดร้านค้าหากการโจรกรรมไม่ลดลง ส่วนทางด้าน Target ชี้ว่าความสูญเสียที่เกิดจากการโจรกรรม การฉ้อโกง และสาเหตุอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 500 ล้านดอลลาร์จากปีที่ผ่านมา (2565)

ทำไม Costco และ Sam's Club ต้องตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน

การตรวจสอบใบเสร็จรับเงินไม่ใช่แค่การลดการโจรกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถออกจากร้านพร้อมกับทุกสิ่งที่ซื้อได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องโดนกักตัว

ทั้งนี้ Costco ได้มีการเปิดเผยกับ Business Insider ว่า พนักงานประจำร้านจะออกใบเสร็จรับเงินจากลูกค้าทุกรายที่ออกจากอาคาร โดยในใบเสร็จรับเงินประกอบด้วย เครื่องหมายสำหรับการซื้อสินค้าที่เป็นขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับการนับสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการคิดราคาต่ำกว่าหรือเกินของพนักงานแคชเชียร์

ซึ่งก่อนหน้านี้ Costco ได้กล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า “เป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานที่คลังสินค้าทุกแห่งของเรา จะมีการตรวจสอบใบเสร็จการซื้อเมื่อลูกค้าออกจากอาคาร โดยการทำเช่นนี้เพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าสินค้าที่ลูกค้าซื้อไปนั้นได้รับการดำเนินการอย่างถูกต้องโดยแคชเชียร์ ซึ่งถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการรักษาความถูกต้องในการควบคุมสินค้าคงคลัง และยังเป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าได้รับการชำระเงินอย่างถูกต้อง

แน่นอนว่า Costco ไม่ใช่ร้านเดียวที่จะตรวจสอบใบเสร็จ ห้างค้าปลีกอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกันอย่างเช่น Sam's Club ที่ผ่านมาก็ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “จุดประสงค์ของการตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน คือ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับบริการการชำระเงินอย่างถูกต้อง"

ดังนั้นจึงมีเหตุผลมากมายที่จะแสดงใบเสร็จเมื่อถูกถามถึง

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แต่จะเป็นการดีหากมีการทำตามระเบียบข้อบังคับของสถานที่นั้นๆ ที่ได้ระบุไว้เพื่อให้การซื้อสินค้าดังกล่าวเป็นไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงไม่ให้งานของพนักงานหน้าร้านยุ่งยากโดยไม่จำเป็นอีกด้วย....

อ้างอิง Business Insider