
ดิจิทัลเปลี่ยนโลก ทำให้แม้แต่แบรนด์ที่เรียกว่าเป็นอมตะ ยังต้องหาทางอยู่ให้ได้ตลอด ด้วยการปรับและเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดอยู่เสมอ ซึ่งอ้วยอันโอสถถือว่าเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ภายใต้การนำของทายาทรุ่นที่ 3 ในมือของ หมูแดง นิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด
“เราต้องรีแบรนด์ เราต้องทำ ไม่งั้นเราจะถูกลืม”
“ย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว อ้วยอันโอสถเกิดมาจาก 1 คูหาเล็กๆ คุณปู่ของหมูแดงคือ แพทย์แผนจีน เปิดร้านขายยาชื่ออ้วยอันโอสถอยู่ตรงริมสะพานพุทธ ตอนนั้นคนไข้เยอะมาก ท่านเชี่ยวชาญทั้งสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีน คิดค้นตำรายา ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และดำเนินกิจการต่อมาถึงรุ่นคุณพ่อ ก็ได้ขยายโรงงานผลิตยาแผนโบราณอ้วยอันโอสถ และขยายไลน์การผลิตอาหารเสริม กิจการเฟื่องฟูจนถึงปัจจุบันค่ะ
และรุ่นของหมูแดง และน้องชายอีก 2 คน ดำเนินกิจการต่อมาเป็นรุ่นที่ 3 หมูแดงดูด้านการตลาด ส่วนน้องชายดูฝ่ายวิจัยและพัฒนา (Research And Development) คิดค้นสินค้าดีๆ ออกมาให้ผู้บริโภคใช้ อีกคนก็ดูเรื่องการขายค่ะ”
Thairath Talk : ในความคิดของคนส่วนใหญ่ สมุนไพรเท่ากับยา ซึ่งยาย่อมมีผลข้างเคียง แต่สำหรับคุณนิชา ผู้อยู่กับสมุนไพรมาทั้งชีวิต สมุนไพรสำหรับคุณนิชาคืออะไร
บัญญัติของคำว่าสมุนไพรก็คือ ยาชนิดหนึ่ง แต่คนมักคิดว่าสมุนไพร คือ พืช ในความเป็นจริงแล้วสมุนไพรมันไม่ใช่แค่พืช ยาจากสมุนไพรคือ ยาที่ได้จากพืช แร่ธาตุ และสัตว์ต่างๆ
แต่สิ่งที่ทำให้สมุนไพรแตกต่างจากยา คือ มันมาจากธรรมชาติ ไม่มีการปรับโครงสร้างภายใน เพราะฉะนั้นสมุนไพรก็คือ ทางเลือกว่าเราจะเลือกอะไรเข้าสู่ร่างกายเรา และอดีตยาสมุนไพรต้องต้มใส่หม้อ มีรสชาติขม กลิ่นแรง แต่ปัจจุบันพัฒนาให้รับประทานง่ายในรูปแบบแคปซูล
Thairath Talk : แบรนด์อ้วยอันโอสถมีอายุมากกว่า 70 ปีแล้ว การตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคต้องเปลี่ยนไปไหม ท่ามกลางยุคสมัยที่มีตัวแปรมากมาย
ตัวหมูแดงให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลง หรือการรีเฟรชแบรนด์อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกวันนี้ทุกอย่างรอบตัวมันก้าวเร็วมาก ถ้าเรายังอยู่ที่เดิม ไม่เข้าใจวัยรุ่นยุคนี้ เราก็ขายของให้เขาไม่ได้ ซึ่งลูกค้าของอ้วยอันโอสถมีทุกวัยจริงๆ เราก็ต้องพยายามทำความเข้าใจแล้วก็หา Message หรือ Content สื่อสารให้ถูกจุด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นคุณพ่อคุณแม่ รุ่นเรา หรือรุ่นเด็ก
และด้วยความที่ว่าอ้วยอันโอสถมียาเกือบ 100 SKU (Stock Keeping Unit) ด้วยความหลากหลายเช่นนี้ เราจึงต้องจัดกลุ่มแบ่งลูกค้า ผลิต Content เพื่อที่จะสื่อสารกับคนทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายมากสำหรับการตลาดในยุคนี้
Thairath Talk : เห็นมีการแต่งเพลงโฆษณา เป็นเพลงแปลงมาจากศิลปิน ‘สิงโต นำโชค’
ชื่อเพลงต้นฉบับ คือ ไอจัสวอนนาเป็นแฟนยูได้บ่ แต่เราก็คิดว่าอยากให้คนจดจำอ้วยอันโอสถง่ายๆ ก็เลยคุยกับเจ้าของเพลงนี้แล้วแปลงมาเป็น ‘ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่’
เราใช้กลยุทธ์ Music Marketing Campaign เพราะเชื่อว่ามันเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคง่าย และยอดวิวของเพลงนี้ตั้ง 130 ล้านวิว นั่นหมายถึงทุกคนร้องได้แน่นอน และเราจะมี Music Video อย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องมีท่าเต้นด้วย แล้วทำเป็นกระแสไวรัลตามสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้คนจดจำเราได้
Thairath Talk : อ้วยอันโอสถดำเนินธุรกิจมาถึงทายาทรุ่นที่ 3 เราได้รับคำแนะนำในการทำธุรกิจจากรุ่นคุณปู่และคุณพ่อไหม
หมูแดงและน้องชายโตมาแบบครอบครัวคนจีนจริงๆ ทุกอย่างที่เรารู้ว่าเป็นคำสอนของชาวจีนเราได้มาครบ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน กตัญญู อีกทั้งคุณปู่และคุณพ่อเป็นคนที่ทำงานหนักมาก เวลา 06.30 น. ทุกเช้าก็เดินตรวจออฟฟิศแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นเลยว่าถ้าเราอยากทำอะไรให้สำเร็จ เราต้อง Work Hard ทำงานหนัก
และคุณพ่อไม่เคยสอนงานค่ะ แต่เวลาดูงานทำงาน เขาจะหนีบลูกไปด้วยเสมอ เราก็สังเกตเอง อันนี้เป็นสิ่งดีที่เราซึมซับมาก
แต่พอมาถึงรุ่น 3 แน่นอนต้องมาปรับจูนทัศนคติกับคนรุ่น 2 มันมีหลายเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เพราะความต่าง และประสบการณ์ของแต่ละวัย มันแน่นอนว่าคนก็ต้องสงสัยข้อเสนอของคนทำงานรุ่นใหม่ว่าจะเชื่อถือได้หรือไม่ หมูแดงว่ามันใช้เหตุผลและการพูดคุยประนีประนอม ท้ายที่สุดผลของงานมันก็จะสื่อออกมา
เวลาที่เราอธิบายคนรุ่นสองอาจจะไม่เห็นภาพ แต่เราบอกเขาว่า เราไม่ทำไม่ได้นะ ถ้าเราไม่ทำไม่งั้นแบรนด์เราจะถูกลืม เรามีของดีทำไมไม่บอกให้ผู้บริโภครับรู้ นั่นจึงเป็นที่มาของการทำแบรนดิ้ง พอเขาเห็นว่าการเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งมันดูทันสมัย น่าใช้แต่ยังคงคอนเซปต์ความสะอาดและปลอดภัย ก็เลยค่อยๆ ทำกันมาเรื่อยๆ ค่ะ
Thairath Talk : อ้วยอันโอสถแปลว่าอะไร
อ้วยอัน แปลว่า สะอาด และปลอดภัย คุณปู่เป็นคนตั้งชื่อนี้ค่ะ เพราะฉะนั้น Mood & Tone นี้เราจึงใช้กับทุกอย่างของเรา ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจ การผลิต กระบวนการผลิต สิ่งที่เราสื่อออกไปเราให้ความสำคัญกับความสะอาด และปลอดภัย