NT เผยปี 2023 องค์กรธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วย IT รับเทรนด์เศรษฐกิจขาขึ้น

NT มองเทรนด์เทคโนโลยีปี 2023 สร้างโอกาสเติบโตองค์กรด้วย "ไอที" ชิงความได้เปรียบทางธุรกิจ หนุนภาครัฐและเอกชนเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจ

พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า หลังจากที่วิกฤติโควิดเริ่มคลี่คลายแล้ว โอกาสของการพัฒนาและเติบโตของธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวและคึกคักมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายธุรกิจกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง

ทั้งนี้ ธุรกิจที่รู้ทันตลาด รู้ทันผู้บริโภค จากการใช้เครื่องมือสนับสนุนทางเทคโนโลยีไอทีและดิจิทัล ก็จะสามารถฟื้นตัวได้ก่อน โดยเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัลในปี 2023 จะมีบทบาทอย่างมากในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ

นอกจากจะช่วยวิเคราะห์เทรนด์การตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำ รวมถึงช่วยการวางแผนอย่างเป็นระบบ ประเมินทิศทางการเติบโต และลดความเสี่ยงของความล้มเหลว

จากเทรนด์เชิงกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีปี 2023 ที่ทาง Gartner บริษัทผู้ทำวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้เปิดเผยถึง ที่สุดของเทรนด์เชิงกลยุทธ์ทางเทคโนโลยี ใน 4 กลุ่ม คือ

1. เพิ่มประสิทธิภาพ (Optimizing) กับเทคโนโลยีระบบภูมิคุ้มกันดิจิทัล ระบบสังเกตประยุกต์ และระบบเอไอที่น่าเชื่อถือ

2. การปรับขยายตัว (Scaling) กับเทคโนโลยีแพลตฟอร์มคลาวด์อุตสาหกรรม แพลตฟอร์มด้านวิศวกรรม และระบบไร้สายเพื่อการขยายระบบ

3. การบุกเบิก (Pioneering) กับเทคโนโลยี SuperApp ระบบเอไอที่ปรับตัวได้ และ Metaverse

4. เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน และคาดว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะพัฒนาและเติบโตในช่วง 1-3 ปี

ดังนั้นหากธุรกิจใดที่นำกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้รวดเร็วก่อนคู่แข่ง จะทำให้เกิดความได้เปรียบและสร้างการเติบโตของธุรกิจ

พันเอกสรรพชัยย์ กล่าวอีกว่า ช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว สิ่งที่จะเป็นความได้เปรียบคือ ผู้นำที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบนาทีต่อนาที เพื่อให้การตัดสินใจอย่างแม่นยำ ขณะที่การปรับตัวต้องอาศัยระบบที่ชาญฉลาดและยืดหยุ่น ปรับตามสถานการณ์ทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นปัจจัยที่จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจได้ คือ ระบบเครือข่ายที่มีเสถียรภาพ

จากสถิติปริมาณแบนด์วิดท์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศและระหว่างประเทศเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประมาณปีละ 30% และสำหรับการคาดการณ์ในปี 2023 ปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ต หรือ แบนด์วิดท์จะเติบโตสูง โดยแบนด์วิดท์ในประเทศคาดว่าจะโตประมาณ 25.31% หรือประมาณ 20 Tpbs ขณะที่แบนด์วิดท์ระหว่างประเทศจะเติบโตสูงขึ้นถึง 37.70% หรือประมาณ 34 Tbps.