คุยกับแม่ตุ๊ก แม่นิหน่า แม่แตน ปั้น Happy Munchy ออมุกที่ขายดีในเซเว่นฯ

แม่ตุ๊ก แม่นิหน่า แม่แตน ปั้น Happy Munchy ทำ "ออมุก" อาหารสไตล์เกาหลี ที่ขายดีในเซเว่นฯ จุดเริ่มต้นของธุรกิจมาจากลูกๆ  ไม่ยอมทานอะไร  

ตุ๊ก นิรัตน์ชญา การุณวงศ์วัฒน์ เจ้าของเพจเลี้ยงลูกชื่อดัง Little Monster, นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์ นักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และแตน ธันยวดี วะสีนนท์ นักธุรกิจหญิงผู้คร่ำหวอดในธุรกิจอาหาร เล่าถึงที่มาที่ไปในการทำธุรกิจ Happy Munchy ว่า เมื่อ 6 ปีก่อนปัญหาใหญ่ของตุ๊ก ก็คือ ลูกสาวไม่ยอมทานอะไรเลย นอกจากหมูฝอย ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการตามช่วงวัยมากๆ

ทั้งนี้พอเราได้คุยกับแตน และนิหน่า ก็พบว่าเผชิญปัญหาเดียวกัน เราจึงร่วมกันก่อตั้งบริษัท ลิตเติลมันช์ชี่ จำกัด ขึ้นมา เพื่อทำอาหารสำหรับเด็ก โดยจุดประสงค์หลักสำคัญเลย คือ อยากให้เด็กๆ ทานง่าย และได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์  
  
แม่นิหน่า บอกว่า หลายคนอาจจะคิดว่ามันง่าย เพราะแตนมีโรงงาน แค่บอกให้ทำก็สามารถทำได้ แต่มันไม่ใช่ เราเริ่มจากการคิดค้นสูตรร่วมกันผ่านกระทะเล็กๆ ในครัวหลังบ้าน เพื่อหาความลงตัวตรงตามที่เราต้องการ มันคือ Made by Mom จริงๆ เริ่มทำจาก 3 แม่ ในสเตปแรก ถึงจะสู่ขั้นตอนการผลิตโดยโรงงานที่ได้มาตรฐาน

  
หลังจากสินค้าหมูฝอยภายใต้แบรนด์ Little Munchy หรือ ลิตเติลมันช์ชี่ ที่ชูคอนเซปต์ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่มีสารกันบูด มีประโยชน์ และมี อย. เริ่มบุกตลาดอาหารเด็กในปี 2559 ก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ในปี 2563 ทั้ง 3 คนตัดสินใจรีแบรนด์ Little Munchy สู่ Happy Munchy เพื่อให้ขยายฐานลูกค้าไปได้ไกลกว่าแค่กลุ่มอาหารเด็ก  
  
แม่แตน บอกว่า ที่เราใช้คำว่า Happy สื่อถึงความสุขของผู้ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลังจากเรารีแบรนด์และเพิ่มช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น เพิ่มไลน์สินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายของเราเติบโตมากกว่า 100% เรียกว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านและลูกไม่กินข้าว มาเป็นงานอดิเรกสู่ธุรกิจแบบจริงจังอย่างปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การขยายฐานจากตลาดแม่และเด็ก สู่ตลาดใหม่ๆ จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ ทั้ง 3 คนซึ่งมีบุคลิกเป็นทั้งนักคิด นักพัฒนา นักสู้ นักแก้ปัญหา อยู่ใน DNA จึงเดินหน้าลุยและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องระบบบัญชี การบริหารสต๊อก แพ็กเกจจิ้ง ตลอดจนเรื่องรสชาติ จากพันธมิตรช่องทางขายอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น เช่น การปรับเปลี่ยนรสชาติไม่ให้ยึดติดกับรสชาติเพื่อแม่และเด็กจนเกินไป เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเซเว่น อีเลฟเว่น ได้ง่ายขึ้น  
 
แม่ตุ๊ก เล่าต่อว่า เรากลับมาคิดเพิ่มว่าจะผลิตสินค้าอะไรดีที่เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนี้ และก็มาจบลงที่ ออมุก สไตล์เกาหลี สินค้าที่ยังคงฮอตฮิตมาตลอด แต่เราต้องสร้างความแตกต่าง ด้วยการคงคอนเซปต์หลักของเราไว้คือ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่มีสารกันบูด และมีประโยชน์ ทานง่าย รสชาติอร่อย ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
  
ปัจจุบัน บริษัทมี ออมุก วางจำหน่ายใน เซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งสิ้น 2 SKU ประกอบด้วย ออมุกปลาแผ่นเกาหลี และออมุกผสมผัก จำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ โดยในอนาคตเตรียมที่จะออกออมุกตัวใหม่เรื่อยๆ มุ่งหวังให้ออมุกเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ช่วยส่งมอบความสุขให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง  

  
สิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจก็คือ ความรู้ ยิ่งเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยิ่งต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติม และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อไหร่ที่หยุดแสวงหาความรู้ หยุดพัฒนาตัวเองก็เท่ากับตาย จะมีแต่ Passion ไม่ได้ เพราะ Passion เพียงอย่างเดียวไม่ช่วยให้ต่อสู้กับตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้

ต้องทำสินค้าบนความต้องการของตลาด พันธมิตรที่ดีมีส่วนช่วยให้เราเดินไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งสินค้าออมุกก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เซเว่น อีเลฟเว่น ให้การสนับสนุนและส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน.