ใจนักเลง

เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2563 พอ พลโทรังษี กิติญาณทรัพย์ เปิดแถลงข่าวช่อง 5 รุกทำอีคอมเมิร์ซจับมือกับ JD.com แห่งประเทศจีน นักข่าวจึงให้ความสนใจไปร่วมฟังกันอย่างคับคั่ง

พองานเริ่มไม่พูดพร่ำทำเพลง พลโทรังษีบอกว่า “ใครมีอะไรให้ถามมา ไมโครโฟนไม่ต้อง เสียงดังฟังชัด” จากนั้นก็ร่ายยาว “ช่อง5พึ่งพาเรตติ้งไม่ได้ (เพราะอยู่อันดับบ๊วย) เราเหมือนจระเข้ที่อยู่ในฟาร์มมีแต่คนโยนไก่ให้กิน มาถึงตอนนี้ต้องออกจากฟาร์ม เพราะขนาดจระเข้ก็ยังไปไม่เป็น”

“ทหารสมัยนี้ไม่ได้โง่ พอจะรู้เรื่องเศรษฐกิจ ถึงได้รู้ว่าเราต้องพยายามขวนขวายหาโปรเจกต์ใหม่ๆมาช่วยขับเคลื่อนประเทศ” จากนั้นก็ขายไอเดียสัมปทานเหมืองแร่ควอตช์ ต่อด้วยลงทุนโรงงานโซลาร์เซลล์ ผลิตไฟฟ้า อย่างยาวววว จนนักข่าวงง สรุปจะแถลงเรื่องอะไรกันแน่

และเพราะโปรเจกต์ใหญ่ เงินเยอะ ผลประโยชน์ย่อมตามมา พลโทรังษี จึงรีบออกตัวว่า “ผมนี่เกลียดเรื่องโกงที่สุด เมืองไทยนี่ เรื่องโกงหนักกว่าโควิดนะ เป็นภัยคุกคามระบบ ผมอยากเสนอให้ประหารชีวิต เอาโดรนมาทิ้งระเบิด”

“ตอนไปดูงานเมืองจีน ผู้หญิงที่ถูกส่งมาประกบบอกว่า หนูอยู่กับท่านแล้วมีความสุขมาก ปัทโธ่! ผมถูกเมียด่าทุกวัน หนูมาอยู่ด้วยไม่ถึงวัน มาบอกว่ามีความสุข อย่ามาลองของ”

ใจนักเลงไม่ชอบ.