“แอตต้า” เรียกร้องรัฐบาลเปิดประเทศ ให้คนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว เริ่มต้นเดือน มิ.ย.นี้ เชื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ 5 แสนล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคน ดันจีดีพีโต 4% ถ้ายังช้าเปิดตอนเดือน ต.ค.จะเหลือนักท่องเที่ยว 3 ล้านคน
นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดไทม์ไลน์การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวให้ชัดเจน ว่าจะเปิดให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวเมื่อใด โดยสัปดาห์นี้จะส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งต้องการให้เริ่มต้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ เพื่อให้ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคน สร้างรายได้การท่องเที่ยว 500,000 ล้านบาท ช่วยหนุนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ได้ 4%
“ภาคเอกชนไม่อยากเป็นภาระ ให้รัฐบาลเยียวยาเป็นเวลานาน และมองว่าวัคซีนเป็นทางรอด ทางออกและความหวังของการท่องเที่ยวไทย ขณะนี้คนทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 250 ล้านคน และภายในครึ่งปีแรกจะมีคนทั่วโลกได้รับการฉีดวัคซีน 1,000 ล้านคน หลายๆประเทศจะมีการฉีดเกิน 50% ของประชากร ทำให้ขณะนี้ทั่วโลกเขามองเรื่องการท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวกันแล้ว ต่อไปคำว่ากักตัวจะเหลือน้อยมาก จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาโดยเร็ว อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ทั้งนักลงทุน นักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มอื่นๆ เดินทางเข้าไทยแบบไม่กักตัว และมีมาตรการควบคุมเพิ่มได้ เช่น การสวอปหาเชื้อเพิ่มอีก 1 ครั้งเมื่อเดินทางถึงไทย และมีแอปพลิเคชันติดตามตัว”
สำหรับข้อเสนอ ให้เริ่มเปิดประเทศสำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยไม่ต้องกักตัว ในเดือนแรก มิ.ย.จะเริ่มมีต่างชาติเข้ามา 200,000-300,000 คน ก่อนจะทยอยเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. เดินทางเข้ามา 500,000 คน จากนั้น เดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 คน เดือน ก.ย. เป็น 1 ล้านคน เดือน ต.ค. เป็น 1.5 ล้านคน เดือน พ.ย. เป็น 2 ล้านคน และเดือน ธ.ค.เป็น 2.5 ล้านคน รวม 8.3 ล้านคน แต่ถ้าเริ่มเปิดประเทศล่าช้าเป็นเดือน ก.ค. รายได้จะหายไป 200,000 ล้านบาท และมีต่างชาติเข้ามา 6 ล้านคน ส่วนกรณีเปิดเดือน ต.ค.จะมีชาวต่างชาติเข้ามาได้ไม่เกิน 3 ล้านคน เพราะเมื่อเริ่มเปิดประเทศ ต้องใช้เวลา 3-6 เดือนกว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาเป็นปกติ
นอกจากนั้น การจะเริ่มเปิดประเทศเมื่อใด ต้องแจ้งล่วงหน้า 3 เดือน หากตัดสินใจเปิดประเทศเดือน มิ.ย.นี้ ก็ต้องแจ้งล่วงหน้าเดือน เม.ย.นี้ เพื่อให้เอกชนจัดเตรียมสินค้าท่องเที่ยวและเริ่มการขาย พร้อมติดต่อกับสายการบิน ตลอดจนตามแรงงานที่กลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดได้กลับมาทำงาน หลังจากไทยไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเกือบ 1 ปี รายได้การท่องเที่ยวหายไป 2 ล้านล้านบาท ส่วนในอนาคตคาดว่าต้องใช้เวลา 3 ปีจากนี้จนถึงปี 2566 ท่องเที่ยวถึงจะฟื้นตัวกลับมา 100% เท่าปี 2562 ก่อนเจอโควิด-19 หรือดีกว่าด้วยซ้ำ โดยปีนี้จะฟื้นตัว 15-20% หรือคิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6-8 ล้านคน ขึ้นกับว่าจะเริ่มเปิดประเทศเดือนใด ส่วนปี 2565 คาดว่าฟื้นตัว 70% จากปี 2562
“แรงงานภาคท่องเที่ยวที่เคยมีอยู่ 4 ล้านคน ปัจจุบันตกงาน 1 ล้านคน และอีก 2 ล้านคน ต้องหยุดงาน ลาหยุดแบบไม่ได้รับค่าจ้าง และสลับชั่วโมงการทำงาน ขณะที่กลุ่มที่ยังทำงานเต็มเวลามี 1 ล้านคน แต่ถ้าเปิดประเทศ แรงงานภาคท่องเที่ยวก็จะทยอยกลับมาทำงานแบบเต็มเวลา 1 ล้านคน ทั้งจากกลุ่มที่ต้องหยุดงานชั่วคราว และกลุ่มตกงานถาวร ซึ่งจะได้กลับมาทำงาน ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม ห้องอาหาร การบิน มัคคุเทศก์ ฯลฯ”.