ดูดทุนนอกเข้ามาลงทุนในไทย “สุพัฒนพงษ์” ปิ๊ง ไอเดียลดภาษีเงินได้นิติบุคคล

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้สามารถแข่งขันดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกับประเทศที่เป็นคู่แข่งกับประเทศไทยเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งเวียดนาม ซึ่งในสายตานักลงทุนมีการเปรียบเทียบกันอยู่ ดังนั้นจึงต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ซึ่งจากการหารือกับหัวหน้าทีมชักจูงการลงทุนจาก ต่างประเทศ รวมถึงทีมงานที่ออกไปรับฟังความคิดเห็นจากนักธุรกิจในภาคส่วนต่างๆทำให้ทราบปัญหาและอุปสรรคการลงทุนในประเทศว่ายังติดขัดเรื่องของปัญหาและกฎระเบียบต่างๆซึ่งต้องแก้ไขจริงจัง รวมถึงต้องปรับเปลี่ยนมาตรการทางภาษีบางส่วนเพื่อจูงใจนักลงทุนเพิ่มขึ้น คาดว่าการลงทุนจากต่างประเทศจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นในปี 65 หลังจากที่ปี 64 ให้น้ำหนักกับการประคับประคองเศรษฐกิจในประเทศ

ทั้งนี้ ตนจะลงไปกำกับดูแลการแก้ไขกฎระเบียบและกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ต่อการประเมินผลในการประเมินความยากง่ายในการทำธุรกิจกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการตรวจคนเข้าเมือง การขอวีซ่าและการต่ออายุสมาร์ทวีซ่าของคนที่ทำงานในไทย ขั้นตอนศุลกากรส่งออกนำเข้าซึ่งต้องปรับปรุงให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งขั้นตอนในการทำเรื่องเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายหน่วยงานคล้ายกับการวิ่ง 31 ขาที่เด็กหลายๆคนเอาขามาผูกติดกัน ความยากคือความพร้อมเพรียงกันในการเดินหรือวิ่ง หากทำได้ก็จะไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

นายสุพัฒนพงษ์ ยังได้กล่าวถึงการคาดการณ์ของคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวเพียง 1-3% ว่ายังคงเป้าหมายการทำงานให้เศรษฐกิจขยายตัว 4% เพราะถ้าหากทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจ-6.1% ก็จะเหลืออยู่แค่-2% เท่านั้น พอในปี 65 เศรษฐกิจขยายตัวก็จะฟื้นคืนขึ้นมาสู่ระดับเดิมได้ ส่วนใครจะบอกว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะโตไม่ถึง 3% ก็เรื่องของเขา ขอย้ำว่าเป้าทำงานยังอยู่ที่ 4% ส่วนจะบอกว่าหักปากกาเซียนหรือไม่ไม่รู้แต่ปีที่แล้วก็หักมาแล้ว สำหรับการทำงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมายอมรับว่าให้ความสำคัญกับการประคับประคองแก้ปัญหาต่างๆและสร้างโอกาสในการดึงเอกชนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น.