
เปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ลุยช่วงโควิด-19 ระบาด นมดัชมิลล์จับมือร้านโชห่วยทั่วไทยขายนมยอดนิยมจับคู่กินกับขนมดังในท้องถิ่น โดยเตรียมงบไว้ทำการตลาดถึง 20 ล้าน
น.ส.ระวิวรรณ มหาคชาภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัทดัชมิลล์มุ่งมั่นผลิตนม และเครื่องดื่มมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีรสชาติอร่อย โดยเฉพาะช่วงปัจจุบันกำลังเผชิญความท้าทายการระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันช่วยผลักดันหลายมิติ ดังนั้น จึงขอเป็นหนึ่งในกลไกช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และความแข็งแกร่งให้กับคนไทย ตอกย้ำพันธกิจแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวแคมเปญการตลาดแห่งปี #ฝากร้านฝากท้อง มิติใหม่การทำตลาดช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทดัชมิลล์สร้างสรรค์ไอเดียการตลาด และการขายโดยการนำกลยุทธ์พาร์ทเนอร์ชิพกับคอนซูมเมอร์เอนเกจเมนต์มาผสานความเป็นไทย ดึงเอกลักษณ์เสน่ห์ความเป็นไทยจากร้านโชห่วย และขนมโลคอลชื่อดังมาสร้างสรรค์เทรนด์ให้การดื่มนมมีความสนุกและอร่อยคูณสอง แคมเปญ #ฝากร้านฝากท้อง เป็นการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจคือ ร้านโชห่วยทั่วประเทศ ด้วยการโปรโมตขนมดังในท้องถิ่นวางขายในร้านโชห่วยรับประทานร่วมกับนมดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ หรือดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต ซึ่งเป็นรสชาติยอดนิยม
น.ส.ระวิวรรณ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันร้านโชห่วยในประเทศไทยมี 443,123 ร้าน เป็นสัดส่วนสูงสุดที่ 44.1% ตามด้วยร้านสะดวกซื้อ 31.8% และไฮเปอร์มาร์เก็ต 24.1% ร้านโชห่วยจึงเป็นกลุ่มตลาดใหญ่ และมีผลขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยจากโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าร้านโชห่วยใกล้บ้านมากขึ้น เพราะกังวลเรื่องเดินทาง แต่ก็มีร้านโชห่วยหลายรายรับผลกระทบ และต้องปรับตัวสู่ยุคผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ดัชมิลล์ และดีมอลต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากร้านโชห่วยไทยมานาน จึงอยากสนับสนุนร้านโชห่วย ด้วยการเปิดพื้นที่โฆษณาให้แต่ละร้านได้ ขายขนมอื่นๆ รับประทานคู่กับนมดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ หรือดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต
อย่างไรก็ตาม ร้านโชห่วยแต่ละแห่งมีเสน่ห์แตกต่างกัน และอยู่กับสังคมไทยมานาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของไทย นอกจากรูปแบบโดดเด่นแตกต่างกันไป ร้านโชห่วยยังมีขนมในท้องถิ่นที่อร่อยและสะท้อนถึงตัวตนแต่ละพื้นที่ เช่น สาลี่สุพรรณ หม้อแกงเพชรบุรี กะหรี่ปั๊บสระบุรี ข้าวหลามหนองมน ขนมเค้กเมืองตรัง เป็นต้น ซึ่งเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในวงกว้างของแคมเปญนี้ จะมีการโปรโมตแคมเปญหลายช่องทาง ดังนั้น แคมเปญนี้ จึงไม่ใช่แค่การช่วยเหลือ แต่เป็นการจับมือกันสู่โอกาสใหม่ๆ ที่จะทำให้เติบโตไปข้างหน้าพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน โดยได้เตรียมงบประมาณสำหรับแคมเปญนี้ไว้ 20 ล้านบาท ตั้งเป้าจะขยายการจัดจำหน่ายในร้านโชห่วย และร้านขนมโลคอลกลุ่มใหม่กว่า 100,000 ร้าน และเพิ่มยอดขายของดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ และดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต ได้มากกว่า 50% ตลอดระยะเวลาแคมเปญ.