หอการค้าไทย-จีน และสมาคมที่ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โรงแรม ฯลฯ รวมตัว ยื่นหนังสือถึง ศบค.ให้กล้าตัดสินใจเปิดประเทศ นำร่องจับคู่ “กวางโจว–ภูเก็ต” เพื่อนำทัวร์จีนมาต่อลมหายใจผู้ประกอบการในภูเก็ตก่อนทยอยล้มตาย ชี้อาตี๋อาหมวย แดนมังกร รอเข้ามาเที่ยวในไทยจำนวนมาก
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า ตนได้หารือร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งในส่วนธุรกิจโรงแรม และธุรกิจบริการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งได้ข้อสรุปตรงกันว่า จะยื่นหนังสือไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณา มาตรการจับคู่กับประเทศ หรือเมืองที่มีอัตราการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่ำ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน (ทราเวล บับเบิล )โดยในส่วนของประเทศจีน ก็อยากให้พิจารณานำร่อง 20 มณฑล ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะมณฑลกวางโจว ที่มีความพร้อมในทุกด้าน อาจจับคู่กับจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หากปล่อยระยะเวลาออกไปจะยิ่งอันตราย จึงอยากให้รัฐพิจารณาเรื่องผลกระทบด้านเศรษฐกิจด้วย ไม่อยากให้มองเพียงเรื่องผู้ติดเชื้ออย่างเดียวเท่านั้น
“เรื่องผู้ติดเชื้อ ผู้ประกอบการก็เป็นห่วง เพราะประเทศรอบข้างกับไทย ก็ยังมีการระบาดต่อเนื่อง และในไทยก็เริ่มกลับมาอีกรอบ 2-3 รายแล้ว แต่ก็อยากให้รัฐบาลกล้าตัดสินใจ มองเรื่องผลกระทบด้านเศรษฐกิจด้วย เพราะขณะนี้การแพทย์ของไทยในการรักษาโควิด-19 เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก การทำทราเวล บับเบิล ก็ให้เลือกเมืองที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ หรืออาจให้ผู้ที่จะเดินทางมาโชว์ใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือการตรวจมาจากต้นทาง และอยากให้ลดจำนวนวันในการกักตัวของนักท่องเที่ยว ที่มีหลักฐานใบรับรองต่างๆ เพื่อจูงใจเข้ามา เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีน รอเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวนมาก เชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่กลับมาฟื้นตัวได้”
สำหรับผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย-จีน ของคณะกรรมการหอการค้าไทย-จีน และเครือข่ายสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน ไตรมาส 1/2564 พบว่า 44.1% คาดการณ์ว่าอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีหน้า จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 2.5% และ 41.3% คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.5-3.5% เนื่องจากมองว่าไทยยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ภาคธุรกิจพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตร บริการสุขภาพ สินค้าเกษตรแปรรูป จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และผลสำรวจพบว่า การลงทุนจากจีนในไทย ไตรมาส 1 ในปีหน้า ส่วนใหญ่ 47.4% มองว่าจะเพิ่มขึ้น
“ประเภทของอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความท้าทายในปีหน้า ผลสำรวจพบว่า ได้แก่ ธุรกิจการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีมาตรการการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการขับเคลื่อนของธุรกิจ โดยสมาชิกหอการค้าไทย-จีน ยังแสดงความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ความมั่นคงทางการเมือง และการประท้วงมากที่สุด คิดเป็น 51.97% รองลงมาการผ่อนคลายเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าสอบถามนักลงทุนจีน เขาจะไม่กังวลการเมืองไทย เพราะที่จีนก็มี และผู้สำรวจยังคาดการณ์ว่า จะมีนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น และแนวโน้มนักท่องเที่ยวจากจีน เริ่มกลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นได้”
นอกจากนี้ หอการค้าไทย-จีนได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างหอการค้าไทย-จีน กับธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ที่จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารทั้งทางด้าน เศรษฐกิจและโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการเข้าถึงการบริการของธนาคารแห่งประเทศจีนทั่วโลก.