“ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท” ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรมี เป็นเสมือนอาวุธติดตัวไว้ เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่จะเข้ามา และนำธุรกิจ พุ่งทะยานสู่ความสำเร็จต่อไป
Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ “ชาคริต ทีปกรสุขเกษม” คนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ทุ่มเท มุ่งมั่น ปลุกปั้นธุรกิจจากหนึ่งสมองสองมือตนเอง เปิด บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (CPanel) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ที่วันนี้ตนเองดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ
คุณชาคริตเล่าว่า จุดเริ่มต้นของการก้าวสู่แวดวงธุรกิจผนังคอนกรีตของผมถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องด้วยที่บ้านก็ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับด้านนี้อยู่แล้ว นั่นคือบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ซึ่งผมก็เคยไปช่วยที่บ้านบริหารธุรกิจอยู่พักใหญ่
โดยหลังศึกษาจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ก็มีโอกาสเข้าไปช่วยธุรกิจทางบ้าน โดยในเวลานั้นเป็นช่วงปี 2540 ที่เศรษฐกิจในประเทศประสบปัญหา (ต้มยำกุ้ง) โดยผมเข้ามาเป็นแกนหลักในการดูแลบริษัท ช่วยคุณพ่อนำบริษัทเข้าสู่ระบบประนอมหนี้ กระทั่งนำบริษัทดังกล่าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
กระทั่งต่อมาได้มีโอกาสไปศึกษาต่อปริญญาโท ด้านการบริหาร ที่ KelstadtSchool of Management, DePaul University Chicago สหรัฐฯ ซึ่งกลับมาเมืองไทยก็ได้มีโอกาสปรึกษากับคุณพ่อ เนื่องจากไปเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เพื่องานก่อสร้างทุกประเภท แต่คุณพ่อมองว่ามีความเสี่ยงหากที่จะลงทุน
“จากคำตอบของคุณพ่อนั้น ก็เป็นแรงจุดประกายที่อยากจะทำให้ท่านเห็นว่ามันมีโอกาสที่เป็นไปได้ ซึ่งก็ไปพูดคุยกับท่านอีกครั้ง และจากนั้นก็ตัดสินใจขอออกมาทำธุรกิจของตนเอง ก่อตั้งเป็นบริษัท ซีแพนเนล จำกัด ซึ่งวันนี้ดำเนินกิจการมาเกือบจะ 10 ปีแล้ว”
คุณชาคริตเล่าถึงแผนธุรกิจจากนี้ว่า บริษัทยังคงรักษาการเติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้มีแผนจะปรับกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าเดิม พร้อมขยายฐานกลุ่มลูกค้ารายใหม่ เสริมพอร์ตเพิ่มความแข็งแกร่ง ซึ่งจะเน้นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายกลางและรายใหญ่ ที่มีรูปแบบโครงการและอาคารที่หลากหลายมากขึ้น
อีกทั้งยังมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนการผลิต โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออกและมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์การผลิต เพื่อลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพมากขึ้น และตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการได้
“ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังคงชะลอตัวและมีความไม่แน่นอนสูง ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบจากมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ฉุดยอดขาย ยอดโอนกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายมีการลดสต๊อกสินค้าในช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 ต่อเนื่องถึงช่วงไตรมาส 1 ปี 2563”
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการ และกลุ่มผู้รับเหมาต้องมีการปรับกลยุทธ์ ลดต้นทุนการก่อสร้าง ลดจำนวนแรงงาน บริหารความเสี่ยง ลดเวลาการก่อสร้าง เพื่อลดสต๊อกและใช้วัสดุที่ทำให้การก่อสร้างเสร็จเร็วมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของซีแพนเนลที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเติมเต็มช่องว่างตรงนี้ โดยขณะนี้บริษัทเริ่มเห็นสัญญาณคำสั่งซื้อในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 เข้ามาแล้ว
คุณชาคริตเล่าว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ โครงการสัมมากรสุวรรณภูมิ โครงการโกลเด้น นีโอ บางนา กิ่งแก้ว โครงการ บริทาเนีย เมกะทาวน์ บริทาเนีย หทัยราษฎร์ โครงการของเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ โครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค อ่อนนุช เป็นต้น นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการงานก่อสร้างอาคารภาครัฐ งานอาคารสำนักงาน และคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งถือเป็นการขยายโอกาสในการรับงานให้มีความหลากหลายมากขึ้น
คุณชาคริต เล่าปิดท้ายว่า จากนี้ไปบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าจำนวน 15 ราย มีมูลค่างานในมือ (Backlog) 380 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2 ปี ขณะที่กำลังการผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูปของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 60% โดยบริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตปีนี้อยู่ที่ 5-10% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 326-340 ล้านบาท.